*STYLE TYPE="text/css"> p {align=justify} BODY{cursor: url(http://ourworld.cs.com/dollielove6/uc4.cur);} a {cursor: url(http://ourworld.cs.com/dollielove6/uc4.cur);} */STYLE> Bakery Idea From me :): มีนาคม 2006

Bakery Idea From me :)

วันศุกร์, มีนาคม 17, 2549

ปิดเทอมแว้วว

สอบเสร็จวันสุดท้าย...ผ่านไปได้ด้วยดี
เกิดความรู้สึกดีๆ เพิ่มขึ้นให้กับคนอีกหลายคน
เจ้าหน้าที่น่ารักๆ ก็มีนะเนี่ย
พี่เพ็ญคอยประคองเราเข้าไปสอบในห้อง อ.เต่าตลอดเลย
พี่แดง คอยช่วยถือของให้ พาเข้าห้องน้ำ

อาจารย์แจคกี้ก็น่ารักมาก ขนาดข้อสอบมีที่ผิด ยังวิ่งมาบอกแล้วแก้ให้เราที่ห้องตั้ง 2 ครั้ง เราขำอาจารย์ด้วยแหละ เข้ามาแล้วถามเราใหญ่ว่าทำข้อ 5 ไปยัง เราบอกว่าทำแล้ว เขาก็ตกใจ มันมีที่แก้นะ แล้วเขาก็หยิบข้อสอบเราไปเขียนแก้ให้เฉยเลย ... ข้อสอบเราเลยมีลายมืออาจารย์อยู่ 5555

บางทีอาจารย์นั่งเซ็นงานอยู่ ก็หันมาถามเราว่าหนาวไหม (เขาคงหนาว 5555)

ข้อสอบเราเก็บช้าไป 5 นาทีด้วย เพราะพี่เขาบอกว่าเราเข้าห้องช้า และเดินช้ากว่าจะถึงห้อง เขาเลยให้เราทำช้าไปอีก 5 นาที ( ขอบคุณพี่มากๆ เลย เพราะ 5 นาทีนั้น มันมีความหมายกับเรามากมาย )

เพื่อนๆ ก็ดี อ้นมาช่วยประคองเราตอนลงบันได เพราะเราลงเองไม่ได้
พี่นพ กับพี่เอ๋ก็ช่วยถือของ รอจนกว่าแม่เรามารับ ไม่ยอมปล่อยให้เรารอแม่คนเดียว
ชุ ก็...ไม่ได้สนิทเลยอ่ะ ยังมาช่วยจูงเรา
พี่ๆ เพื่อนๆ คนอื่นอีกหลายคน แม้แค่เคยยิ้มๆ ให้กันเฉยๆ ไม่ได้รู้จักกันก็เข้ามาให้ความช่วยเหลือ ถามไถ่
สอบเสร็จก็มีคนโทรมาถามอาการกันหลายคน
พี่ๆ เพื่อนๆ ใน msn ที่รู้ก็ถามอาการกัน
ทำให้รู้สึกว่า คนที่คณะนี้มีน้ำใจไมตรีดีกะเราจังเลย



































สุดท้าย

เต่า..น่ารักจัง





ต่อๆ * 3

เรากลับมาบ้านด้วยความเซ็ง + ปวด และอยู่ในระหว่างช่วงการปรับตัวให้เข้ากับขาใหม่ๆ ของตัวเอง...


-ไม่ถนัดเลย ไม้เท้าเนี่ย
-จะอาบน้ำยังไงดี
-ถ้าหายแล้วมันจะเหมือนเดิมไหม จะเล่นตีแบดแบบซาดิสซ์ได้ไหม
-ชีวิตนี้ยังไม่ได้ไปภูกระดึงเลยนะเว้ย จะขึ้นเขาไหวป่าววะ
-เอาใบรับรองแพทย์ไปที่คณะ เขาจะยอมให้สอบข้างล่างไหม
ฯลฯ



พร้อมกับปัญหาหนัก กับการที่เราไม่สามารถอ่านหนังสือได้เลย กินยาก็ง่วงมาก พ้น 4ชม. ก็ปวดใหม่ ไม่กินก็ปวดและบวม กินก็อ่านหนังสือต่อไม่ได้เพราะง่วง

นี่เท่ากับเราอ่านเก็บมาได้เท่าไหน ก็เท่านั้นเลยนะ อ่านทวนก่อนสอบไม่ได้เลย.... ไม่ได้เลยยย




-------------------------------------------------------------------------------------------





แล้ววันสอบเราก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดมากๆ


เราตั้งใจไปก่อนเวลา
บอกเหตุผลเจ้าหน้าที่ ขอสอบข้างล่างพร้อมยื่นใบรับรองแพทย์

เจ้าหน้าที่แต่ละคน..ทำเหมือนไม่เห็นเรายืนข้างหน้าเขาเลย
คนนึงพูดแบบไม่มองหน้าว่า ต้องสอบชั้น 3 ห้อง 301 ตามเลขที่เรา
อีกคนบอกว่า ห้องไม่ว่าง อีกคนบอกว่าอนุญาตให้ใช้ลิฟท์ได้ คนเดิมเสริมต่อ ว่าเดี๋ยวให้ไปสอบห้องพักอาจารย์ชั้น 3
( ห้องพักอาจารย์ชั้น 3 คือห้องติดกะพี่เอ็ดดี้ คนดูแลตึก ซึ่งเหม็นบุหรี่มากก พี่เอ็ดดี้สูบจัดมาก และในทางความเป็นจริง ไม่มีอาจารย์คนไหนยอมนั่งในห้องนั้น เพราะสกปรก+เหม็นบุหรี่ที่พี่เอ็ดดี้สูบ) ...เอ่อ .. เราจะต้องเดินออกจากลิฟท์เดินไปจากสุดทางเพื่อไปนั่งสอบในห้องบุหรี่ของพี่เอดดี้!!!


"เพื่ออะไร" ??????????

วินาทีนั้น เราแทบถอดใจ... อยากกลับบ้านตอนนั้นเลย ขาเราเจ็บขนาดนี้ ยังใจร้ายให้เราขึ้นสอบข้างบนอีกหรอเนี่ย เราควรเชื่อแม่ตั้งแต่แรกจริงๆ ไม่ควรดื้อมาสอบเลย เรานึกถึงที่จุฬาฯมาก เพราะถ้าเป็นที่นั่น อาจารย์จะยอมให้เราเลื่อนสอบแน่ๆ เลยเพราะเคยมีเพื่อนเราได้มาแล้ว แต่ที่นี่.." ตก " แหงๆ


เราเห็นอาจารย์เหน่งเดินผ่านมาพอดี เลยโวยวายขึ้นมาว่า " พี่คะ หนูเดินไม่ไหว ขาหัก เขียวขนาดนี้ สอบชั้น 3 ไม่ได้แน่ๆ ค่ะ ทำไงได้บ้างคะ"
อาจารย์เหน่งหยุดเดิน กึ่ก! " เป็นอะไรคะ (แล้วหันไปบอกเจ้าหน้าที่) สอบที่ห้องพี่ก็ได้ "

อิอิอิอิ



โอ๊ยย ดีใจมากกก

ไม่ต้องเจ็บตัวแล้ว ใครลองมาเป็นบ้างจะรู้สึก ว่าเดินแต่ละก้าวมันเจ็บแค่ไหน ..

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะเอาไง ใครจะคุมสอบเรา
อาจารย์สุรศักดิ์ก็เดินมาพอดี ( เย้ๆ มีคนช่วยอีกแรงแล้ว) ถามเราว่า " เป็นอะไร สภาพนี้ยังจะมาสอบอีก "
อาจารย์เขาคงจำเราได้ ตั้งใจเรียนนั่งเกือบหน้าสุดทุกครั้ง ถาม-ตอบกับเขาเสมอ ดีใจจังที่เขาเอ็นดู อิอิ



" แหม..ไม่มาสอบก็ตกอาญาของอาจารย์ดิคะ"
เราก็บอกไปเสร็จ... อาจารย์รีบถามด้วยความห่วงใยว่า " แล้วสอบที่ไหน"
เราเลยบอกไปว่า " ยังไม่มีที่สอบเลยค่ะ อยากสอบข้างล่างเพราะเดินไม่ไหว แต่เจ้าหน้าที่จะให้สอบข้างบน ..."
อาจารย์ทำท่าเป็นห่วงเรามาก ประทับใจจัง.. อาจารย์เดินไปบอกเจ้าหน้าที่ให้อีกครั้ง ( เป็นคนที่ 2 ละที่ช่วยเรา)

แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า ตารางห้อง อ.เหน่งก็ไม่ว่าง มีเด็กตาบอดมาสอบ..
( เวรกรรมจริงๆ เลยเรา อดอีกแหง)




.................................................



แต่ด้วยความช่วยเหลือของอาจารย์



ในที่สุด

เจ้าหน้าที่ก็ถามกันว่า ให้สอบห้องอาจารย์เต่าได้ไหม เพราะโต๊ะว่าง (อุ้ยๆ ห้องใครนะ 5555)

แล้วเจ้าหน้าที่ตกลงให้เราสอบข้างล่างได้
แถมได้สอบโต๊ะถูกใจอีก

อิอิ

ต่อๆ * 2

ไปถึงโรงพยาบาล..

พยาบาลถาม เป็นอะไรมาคะ ( เรานั่งรถเข็นอยู่)
เราก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นยังไม่หาย... ป ..เปะ.. เป็นรถเมลค่ะ รถเมล...
( เหมือนคนปัญญาอ่อน เขาถามเป็นไร เสือกบอกเป็นรถเมล)






โชคดี เพื่อนมันเดินมา เลยพูดแทนให้ เพราะอินี่พูดไม่รู้เรื่องแล้ว...

" จะขึ้นรถเมล แล้วตกลงไปครับ ขาเดินไม่ได้ ปวดมาก "

คุ๊ณพยายม ก็ดันฟังผิดอีก ---- " อะไรนะคะ รถเมลชนที่ไหนคะ"
เรานึกในใจ แมร่ง กรูจะเปลี่ยนโรงพยาบาลดีป่าววะ พยาบาลฟังไม่ได้ศัพท์ จับไม่ได้ประเด็นเลย


พยาบาลอีกคนเดินมา " ส่งเข้า อาจารย์หมอพิเชษฐ์ ดูกระดูกเลย ขาเขาบวมมาก "


เรานึกในใจ " เอาแล้วๆ อย่าเป็นไรนะ พรุ่งนี้นะเว้ยย "


-------------------------------------------------------------------------------------------------




ตรวจเสร็จ หมอบอกว่าจากฟิลม์เอกซเรย์ กระดูกเท้าแตก เข้าเฝือก 1 เดือนแล้วมาดูผลอีกที

เราร้องไห้โฮเลย บอกหมอว่าจะสอบพรุ่งนี้ จะทำไง
แม่เรารีบบอกหมอเลย สอบไม่เป็นไร นอนโรงพยาบาลเลยไหมคะ คุณหมอ เดี๋ยวจะไปจองห้องเลย

( แม่เราไม่แคร์เรื่องสอบเล้ย...เห้อ )


ไม่เอาอ่ะ..อุตส่าห์ตั้งใจเรียนมาทั้งเทอม หนังสือก็อ่านเก็บมาเยอะแล้ว จะต้องมาอดสอบหรอเนี่ย... เรื่องอะไร

ยังไงก็ต้องไปสอบ ปวดขาก็จะสอบๆๆๆๆ ตั้ง 5 วิชาเลยนะ ไม่ไปสอบก็ซ่อมอ๊วกดิ
ตายสองชั้นอยู่ดีตอนซ่อม


แต่ก็แอบกังวล พรุ่งนี้จะไปสอบไงวะ จะให้แม่เอารถจอดตรงไหนใกล้ๆ ยามก็โหดเข้าข้างในที่จอดรถคณะได้ป่าวไม่รู้ สอบชั้น 3 จะเดินไปยังไงไหว ขึ้นลิฟท์ก็ยังต้องเดินเยอะอยู่ดี ทำไงๆๆๆๆ

ถือศีลอด งดเที่ยว

ถือศีลอด งดเที่ยว!



หึหึหึ

จะดีใจทำไม...
อยู่บ้านไม่มีไรทำ

หึหึหึ

ไปไหนไม่ได้


หึหึหึ

ทำอะไรดี


หึหึหึ
( บ้าไปแย้ว)
อัพบลอคก็ได้วะ
55555555


ตอนนี้อารมณ์ดี
หรือจะเรียกได้ว่า อารมณ์ทำใจมากกว่า
ขาเดี้ยงอ่ะ กระดูกเท้าแตก
ย้อนหลังกลับไป 17 วันที่แล้ว....


ด้วยความงก..ของเรา เห็นว่าใกล้บ้านแค่ 2 ป้ายรถเมลเอง ใครจะเรียกแท็กซี่ละ รถเมลสายไหนๆ ก็ผ่านนี่หว่า
ไปเอาชีทกะเพื่อนมาอ่านสอบ แล้วก็แวะร้านหนมเค้กเจ้าอร่อย ขากลับรีบขึ้นรถเมลไปหน่อย เลยหกล้มลงไปท่าไหนไม่รู้ ไอ้รถเมลมันก็ขับไปเลย ทิ้งเรากลิ้งไปอยู่กลางถนนแบบนั้น... เจ้ากรรม สาย 108 วิ่งมาอย่างเร็ว บีบแตรไล่เราอีก ตอนนั้นเรากลัวโดนรถทับมาก กลัวสุดๆๆ ลุกก็ลุกไม่ได้ พยายามลุกแล้วแต่ก็ไม่ได้อยู่ดี
ทำไงดีล่ะ..
เวลาไม่มีจะคิดแล้วเว้ย มันจะมาทับกูมั้ยวะ
เลยเอาชีวิตรอดก่อนด้วยการเอาก้นกระดึ๊บๆ กะ มือสองข้างที่ยังดีอยู่ถากๆ เข้าฟุตบาท
พอเข้าฝั่งแล้วก็โกยของกินก่อนเลย ชีทช่างมัน 5555 เห็นแก่กิน รองเท้าแตะก็ไปคนละทิศทาง ....
หันไปมอง คนเต็มเลย แต่ไม่มีใครช่วยสักกะคน อือหือ .... น้ำใจคนแถวนี้ มันยังนี้นี่เองหรอเนี่ย...

ซึ้งเลยจริงๆ !!

เราเจ็บมาก มากจนน้ำตาใหลออกมาเองแต่พยายามกลั้นอยู่เพราะอายคนเขา เมื่อกี๊ก็ไปกลิ้งเล่นที่ถนนทีนึงละ นี่ยังจะมาร้องไห้อีกได้ไง...
นึกถึงแม่ แม่ก็ไปทำบุญที่วัด จะโทรบอกแม่ให้มารับไปโรงพยาบาล แม่คงตกใจ กลัวแม่ขับรถเกิดอุบัติเหตุอีก เรื่องคงไปกันใหญ่...

นึกถึงแท็กซี่ ก็ .. เอ่อ เราไม่ไว้ใจแล้ว เลยโทรหาเพื่อนดีกว่า เพิ่งแยกกันเมื่อกี๊เอง บ้านมันอยู่แถวนี้ มาได้ใกล้สุด
แล้วที่สำคัญ ตอนนี้ ..ขาเราขยับไม่ได้เลย ทำไมวะ... เฮ้ย มันเป็นอะไร มันเจ็บมากและขยับไม่ได้ แถมยังมีเนื้อปูดๆ เหมือนเลือดคั่ง ปูดงอกออกมาอย่างรวดเร็วมากที่หน้าเท้าเรา

พิงเสาไฟฟ้าได้ 5 นาที เพื่อนก็มารับ...ฮือๆๆๆ กูเจ็บอ่าาาเดินไม่ได้ขยับไม่ได้แล้ว
ขึ้นรถปุ้ป.. ร้องไห้โฮทันที

ส่วนหนึ่งมาจากความเจ็บขา อีกส่วนหนึ่งมาจากความเจ็บใจ ทำไมต้องเป็นเรา... ทำไมคนมันไม่มีน้ำใจเลยวะ... ทำไมรถเมลมันเลวแบบนั้น ...ทำไมมันต้องบีบแตรใส่เรา... แล้วทำไมเราต้องซุ่มซ่ามขนาดนี้ ทำไม ทำไม ทำไม แล้วพรุ่งนี้เราจะสอบอยู่แล้วนะ