*STYLE TYPE="text/css"> p {align=justify} BODY{cursor: url(http://ourworld.cs.com/dollielove6/uc4.cur);} a {cursor: url(http://ourworld.cs.com/dollielove6/uc4.cur);} */STYLE> Bakery Idea From me :): ไม่มีชื่อเรื่อง

Bakery Idea From me :)

วันพุธ, เมษายน 26, 2549

ไม่มีชื่อเรื่อง

ช่วงนี้รู้สึกห่างหาย ไม่ค่อยได้ทำอะไรเป็นชิ้นอันสักอย่าง
ขาก็ยังเดินเดี้ยงๆ เพื่อนบอกว่ายังเป๋ เดินไม่สวยเหมือนเก่า ( เซ็งมาก ปรึกษาหมอก็บอกว่าต้องรอเวลาเข้าที่จริงๆ อีก 3 เดือนเดี๋ยวดีเองไม่ต้องกายภาพ)
ไอ้เราก็อยากหายไวๆ จะได้ไปไหนมาไหนได้สะดวก ตอนนี้เดินไม่ค่อยปกติ เดินนาน ๆก็เจ็บ ขาบวม กลับมาบ้านต้องแช่น้ำอุ่นตลอดจนขาสุกแล้ววว

รู้สึกว่าตัวเองยังไม่ " สุด " คือ เหมือนทำอะไรยังไม่เต็มที่ และรู้สึกอยากทำเสียทุกอย่าง ในหัวมีอภิมหาโครงการทั้งหลาย แต่ไม่ทำ ....
ชีวิตเรา.. ทำไมเอาแต่ใจแบบนี้ก็ไม่รู้

รู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านมา( อีกละ)
ก็คิดแบบนี้ พูดแบบนี้ทุกเทอมเลย จนโดนคนเขาบอกว่าก็พูดแบบนี้มาทุกปิดเทอม แต่ไม่เคยทำจริงๆ
555



คะแนนสอบเทอมสองตอนนี้ออกหมดแล้ว พอใจระดับนึง ยังไงก็ดีกว่าเทอมแรกมาก
คิดว่าคงเป็นไปตามวัฒนาการตามปกติของนักศึกษาทั่วไปที่เริ่มปรับตัวในการเรียนการสอนได้มากขึ้นมั้ง

คณะนี้การตอบข้อสอบมันมั่ว มันแถ ไม่ได้เหมือนนิเทดจริงๆ
แต่ที่มั่ว คือ.. คะแนน
รู้สึกอยากไว้อาลัยให้เจ้าหน้าที่หลายๆ คนที่คณะนี้เลย เพราะผิดหวัง...

ตั้งแต่ผลสอบวิชาทรัพย์ที่เราได้น้อยที่สุดในบรรดาทุกวิชาของเทอมนี้แล้ว ข้อ 5 ข้อสุดท้าย.. ได้ 6 คะแนน รวมคะแนนได้ 69
พระเจ้าช่วย ! ( ไม่มีกล้วย)
ทำได้นี่นา เขียนกวาดเก็บประเด็นเล็กประเด็นน้อยทุกบรรทัด ธงก็ถูก ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้เท่านี้ เพราะรู้ตัวว่าคะแนนวิชานี้จะฮวบที่ข้อ 3 แต่ สองข้อหลังไม่ควรต่ำกว่า 18

นึกในใจ " ได้ 6 ได้ไงวะ "
อารมณ์ที่วานเพื่อนดูคะแนนให้เพราะขาเดี้ยงไม่ค่อยอยากไป อีกอารมณ์นึงคือ...น่าจะไปดูเองจะได้ ขอทำเรื่องดูสมุดคำตอบ กูพลาดตรงไหน...

ยังไม่ทันไร วิชาค้ำประกันออกอีก เพื่อนโทรมาบอกว่า ข้อ 5 ก้อยหายนะ เป็น ? ไม่มีคะแนนบอก
อ้าว.... ชีวิตกู เป็นเหี้ยไรเนี่ย... ทั้งสองวิชาเลย

ประสาทจะกิน นอนไม่หลับทั้งคืน คิดว่าข้อ 5 หาย แสดงว่าหายไปทั้งสมุด มันเกิดไรขึ้นเนี่ย เป็นไปได้ไหมที่เราสอบห้องข้างล่างไม่เหมือนชาวบ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่เขารวบรวมสมุดคำตอบเราพลาดไป รีบโทรไปห้องสำนักทะเบียน ไม่มีคนรับเลย โทรไปห้องอาจารย์ปิติกุล ก็ไม่มีคนรับ ยิ่งประสาทหนักไปใหญ่ แต่ก็คิดว่าคงเย็นมากแล้ว ทำอะไรไม่ได้...
คืนนั้น นอนไม่หลับเลย... เช้าวันรุ่งขึ้นตัดสินใจไปคณะเองดีกว่า


ไปถึงเป็นวันลงทะเบียนซ่อมของน้องภาคปกติ คนฮึ่มมาก เจ้าหน้าที่หน้าหงิกกว่าทุกครั้งที่เคยเห็นเลย แต่โชคดีที่มีน้องปุ๊ก กะน้องระ คอยช่วยเหลือหยิบเอกสารและบอกข้อมูลต่างๆให้ โชคดีชั้นที่ 2 อีก เมื่อได้เจออาจารย์สมเกียรติเอง ทำให้ได้รื้อสมุดทรัพย์มาดู
อ้าว..ก็ได้ 16 นี่หว่า แล้วทำไมให้เราแค่ 6 วะ... หายไป 10 คะแนน

" เจ้าหน้าที่คีย์ข้อมูลผิด" จาก 16 เหลือ 6 ตัวเดียว... หึหึ ( ตอนนั้นดีใจ ขอแก้คะแนน แต่จริงๆ แอบคิด ทำไมกูได้น้อยวะ แค่ 16 เอง ยังแอบไม่พอใจเล็กน้อย 555)

ส่วนวิชาค้ำประกัน เจ้าหน้าที่บอกว่า สมุดหาย... เราก็ไม่สนมันละ
ไปหาอาจารย์เองดีกว่า ไปถึงอาจารย์บอกว่ามีบางคนทำผิดเล่มไปรวมกับของอาจารย์สุดา ให้รอคะแนนออกอีกทีก่อนเพราะเพิ่งส่งคะแนนระลอก 2 ไป ถ้าไม่มีอีก ก็แสดงว่าหายจริง แต่เดี๋ยวจะดูให้...

ก่อนหน้านี้เราเคยได้ยินข่าวมาว่าเคยมีการสมุดหายแบบนี้แหละ หาไม่เจอแล้วอาจารย์ให้ 16 คะแนน ซึ่งตอนนั้นเราคิดว่าไม่คุ้มอยู่ดีเพราะข้อนี้เราทำได้ มันควรได้เกิน 16 มันออกเรื่องจำนองครอบเพียงใด ซึ่งไม่ได้ยากเลย


แล้วพอคะแนนเราออก เราก็ได้ 16 จริงๆ ทั้งที่ข้อนั้นเราทำได้อีกละ แต่ทำไมคะแนนไม่ดีก็ไม่รู้ดิ.. บังเอิญว่าตรงกับที่ได้ข่าวมาด้วยว่าถ้าเขาหาไม่เจอจริงๆ เขาจะให้ 16...


เห้อ....

ถัดมาอีก 2-3 วันหลังจากคะแนนออก
เราไปสอบหนี้ ที่คณะ
ได้ที่นั่งหน้าสุด ซึ่งเป็นที่วางสัมภาระต่างๆ ของเพื่อนๆ ที่มาสอบ
เราก็รำคาญมากกับเสียงโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุดของเพื่อนร่วมห้อง ทำไมมันมารยาทแย่ยังนี้ ทำไมมันขี้ลืมไม่ได้ปิดเครื่องกัน หนำซ้ำ.. บางคนไม่ได้ดังธรรมดาแบบเสียงเพลง แต่มันเป็นเสียงตั้งนาฬิกาปลุกเว้ยยยยยยยยยยยย
อยากจะฆ่ามันจริงๆ เสียสมาธิมาก เพราะดังไม่หยุด

เจ้าหน้าที่ในห้องก็เป็นบุคคลไร้ความสามารถในการแก้ไขปัญหา นั่งเฉย เฉย เฉย.. ทั้งๆ ที่เสียงดังแบบนั้นตลอด จนเรากะพี่ผู้ชายคนนึงพูดมาว่า มันดังมาจากใบไหนบ้างให้เอาออกไปที่อื่นได้ไหม

เจ้าหน้าที่ก็ขยับตูดลุกขึ้นมาหยิบแบบเนือยๆ แล้วเอากระเป๋าไปไว้ห้องที่เอ็ดดี้

อ้าว...ก็ดังข้างๆโสตประสาทกูอยู่ดีน่ะแหละ
แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อแล้ว เสียเวลา แค่นี้ยังจะเขียนไม่ทันอยู่แล้วเลย


ทำข้อสอบไปสักพัก... รู้สึกเหมือนมีคนมองเราตลอด ( คนเราเวลาเจอมองมักจะรู้ตัวนะ ว่ามะ) ก็เลยเงยหน้าขึ้นมาเพื่อมองไป และเพื่อพักสายตาด้วย ปรากฏว่าเจอเจ้าหน้าที่ผู้ชายมันมองเราอยู่อ่ะ มันนั่งริมบนเวที ตรงโต๊ะตั้งโปรเจคเตอร์ มองลงมานี่จะเห็นเราชัดเลย พอเรามองมัน มันก็หลบสายตาไปมองที่อื่น เราก็ตะหงิดๆ แต่ก็ทำข้อสอบต่อไป ไม่ได้คิดอะไรต่อ...

สักพัก เราทำข้อสอบก็รู้สึกว่าถูกมองอีก เราเลยเงยหน้าขึ้นมา ก็เจอมันมองเราอีกอ่ะ... มันก็หลบสายตาเราอีก
สักพัก เราก็รู้สึกอีก เลยตั้งใจไม่เงยหน้าเพราะมันจะหลบสายตาทัน เราตวัดแต่ลูกตาขึ้นมามองมันแบบรวดเร็ว

ทีนี้ จจังงๆ ๆๆๆ เลย
เราเห็นมันมองขาเราอยู่ เราใส่กระโปรงสั้นเหนือเข่าแต่ไม่มาก และก็เป็นเรื่องปกติด้วยที่มันจะถกขึ้นมาเวลาที่เรานั่ง ยิ่งทำข้อสอบไปก็ไม่ได้ระวังตัว ทำให้ไม่รู้ว่ามันถกขึ้นมาสั้นกว่าเดิม...

พอเรามองมันคราวนี้ แม้มันจะหลบสายตาของมันในตอนแรกไม่ทัน แต่เราก็เห็นจังๆ แล้วว่ามันมองอะไรเราอยู่ เราพยามดึงชายกระโปรงลงมายาวๆ และเอากระเป๋าดินสอปิดช่องว่างระหว่างขาไป

แต่สักพัก... เราก็รู้สึกอีก

แม่ง!
ไม่ไหวแล้ว
เลยลุกขึ้นมาเดินไปเอากระเป๋าของตัวเอง ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้หญิงถามว่าจะเอาอะไรคะ / มีอะไร
เราเลยบอกไปว่า " จะเอาเสื้อหนาวในกระเป๋าออกมาปิดขาค่ะ เพราะว่าเจ้าหน้าที่ผู้ชายคนนี้มองขาตลอด "



แล้วความเงียบก็เกิดขึ้น....

7 Comments:

  • At 8:16 ก่อนเที่ยง, Anonymous ไม่ระบุชื่อ said…

    คนที่อยู่กะปุ๊กน่าจะเป็นโอ๊ตนะ ไม่ใช่ระ

     
  • At 9:30 ก่อนเที่ยง, Blogger suthita said…

    ไวจริงๆ
    แสดงว่าเข้าบลอคเรามาอ่านทุกวัน

    อัพปุ้ป ตอบปั้ป
    5555
    น่าจะเป็นโอ๊ตค่ะ คงใช่ มักจะจำสลับกันบ่อยเลย



    ปล. ทีหลังลงชื่อก้ได้นะ นะ นะ

     
  • At 9:08 หลังเที่ยง, Blogger Etat de droit said…

    สู้ต่อไป

     
  • At 3:47 ก่อนเที่ยง, Anonymous ไม่ระบุชื่อ said…

    เจ้าหน้าที่หิวรึป่าวเลยมองขามึงก้อย

     
  • At 6:49 ก่อนเที่ยง, Anonymous ไม่ระบุชื่อ said…

    อืม ความเห็นข้างต้นมีเหตุมีผล น่ารับไว้พิจารณาเป็นอย่างยิ่ง

     
  • At 6:57 ก่อนเที่ยง, Blogger suthita said…

    คูณผุ้โชมค๊ะ....
    เจ๊ว่า...



    ไอ้ 2 ความเห็นข้างบน มันอยากตายค่ะ

     
  • At 6:03 ก่อนเที่ยง, Anonymous ไม่ระบุชื่อ said…

    พี่ขา..ถึงจะเดินเดี้ยงไปนี้ด พี่ก้อยของนู๋ก็ยังดูน่ารักสวย สะ-ง่าอยู่ดีแหล่ะค่ะ..อย่าซีเรียสค่าอย่าซีเรียส ^.^ พี่ยังดีนะค๊าที่ไม่ต้องทำกายภาพบำบัด ม่ายง้านเสียเวลาท่องหนังสือตายเยย :P(ดูดู๊มานกล้าแซว)

    พี่เป็นคนที่คิดทำอะไร จะจริงจังและตั้งใจสุดๆ ไม่ต้องอะไร้นู๋อ่านแค่ที่พี่เขียนเรื่องคะแนนสอบก็รู้แว้ว พี่เป็นคนจริงจังและทุ่มเทขนาดไหน แหะๆ..อ่านแล้วแอบสะดุ้ง ขนาดพี่ก้อยยังบ่นเสียดายเวลา เห็นทีนู๋จะต้อง(พยายาม)ปฏิวัติตัวเองซะใหม่แล้วค่ะ ^^'...ขอบคุณสำหรับแง่คิดดีดีนะคะ

    อุอุ..นึกหน้าจนท.คนนั้น นู๋ขออนุญาตแอบยิ้มหน่อยได้มะคะ จาหัวเราะก๊ากก็เปงการเสียมารยาท อืม..แปลว่านู๋ก็ตาถึงเหมือนกันนะเนี่ย เห็นแค่รูปยังว่าขาพี่สวยจัง พี่บอกว่าธรรมดาน้อง ถ่ายรูปก็ดูดีแบบนี้แหละ แล้วเป็นไงค๊า..!! ถ้ามานทำมะดาจริงจนท.คนน้านเค้าจะจ้องถี่ขนาดพี่รู้สึกหรอคะ แปลว่าถี่มากเลยนะเนี่ย..คิกๆๆ
    "" จะเอาเสื้อหนาวในกระเป๋าออกมาปิดขาค่ะ เพราะว่าเจ้าหน้าที่ผู้ชายคนนี้มองขาตลอด "
    ประโยคข้างบนซู้ดยอดค่ะ เฮะๆ สุภ๊าพสุภาพ แต่คงทำให้หลายคนอึ้งกิมกี่กันเป็นแถ๊ว เอ่อ..พี่ขา แน่ใจหรอคะว่ามีคนแอบจ้องขาจ๋วยๆของพี่แค่คนเดว..อิอิ:P

    ขอให้ขาพี่หายเป็นปกติเร็วๆนะคะ จะได้ไปไหนมาไหนได้สะดวกไม่อึดอัดแบบนี้..รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ^^

     

แสดงความคิดเห็น

<< Home