*STYLE TYPE="text/css"> p {align=justify} BODY{cursor: url(http://ourworld.cs.com/dollielove6/uc4.cur);} a {cursor: url(http://ourworld.cs.com/dollielove6/uc4.cur);} */STYLE> Bakery Idea From me :)

Bakery Idea From me :)

วันอาทิตย์, มิถุนายน 03, 2550

My Mind Mine




I don t blame you for your changes but am i wrong to still be the same inside...?


...try to be a part of your mind for understanding my mind


Until we meet .. in the same mind! is it a sunshine ?


I do know that your arms will be empty ,though my mind hurting from the constant thought of you


Oh, or you want my mind dies



Seconds will seem to be minutes

Minutes will seem to be hours

Hours will seem to be days

Days will seem to be weeks and weak.. which will seem like eterni..


All I do try..





Until we meet..


My world seem to be imcomplete




How I wish I could turn back time

To the days when he was mine

To the days when our hearts were one

When our clocks of love had just begun


But the hands of time cannot go back

And I must learn to face the facts

His mind is not avalible for me

Yet,still I love him in my mind



Until we meet in one mind





วันศุกร์, พฤษภาคม 18, 2550

สืบเนื่องมาจากคนงก+งบน้อยซื้อบ้าน...


ว่าด้วยมาตรฐานราคาแบบสไตล์เรา (เท่าที่หาได้)

หลังจากซื้อบ้านสร้างไม่เสร็จ และเราเองก็เริ่มเสาะแสวงหาของถูก ของดี เพราะงบมันบานนน... อาศัยข้อมูลที่พันทิพย์นี่ ถามเพื่อนๆ ในนี้ไปทั่วบ้าง ลองมั่วเอง เดินดุ่มมๆ เองบ้าง ใช้มือถือโทรฟรี โทรลุยตามหน้าเหลืองบ้าง มั่วๆ เอาบอกไว้ก่อนว่า ของที่เราหา อาจไม่ถูกสุดสำหรับหลายๆ คนก็ได้ แต่ถุกสุดตามความสามารถเราละ

โอย บ้านหลังแรกก็เข็ดแล้วนะจริงๆ ได้บทเรียนหลายอย่างจากประสบการณ์มั่วๆ ของตัวเองโดยตรง อยากมาบอกคนซื้อบ้านแต่งบ้านมือใหม่งบน้อยแบบเรา คิดว่าอาจมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย บางอย่างอาจมีคนหาได้ถูกกว่าเราก็ช่วยมาอัพเดทแลกเปลี่ยนกันนะคะ เพราะเราหาเกือบทั้งหมดเอง ยอมรับว่าเหนื่อยมากกก บางแห่งเราโทรเป็นสิบๆ เจ้าต่อรองราคากว่าจะได้มา แต่ที่เราทำ คิดว่าประหยัดไปได้เยอะเหมือนกัน แต่ว่าจะหาแหล่งถูกได้จริงๆ แทบตายค่ะ เหนื่อยมากกกกบอกไว้เพื่อเป็นมาตรฐานให้เพื่อนในนี้ที่งบไม่มากอยากประหยัด และไม่เคยมีประสบการณ์เรียกร้านค้าเหล่านี้ ได้รู้คร่าวๆ เป็นตัวอย่างหนึ่งละกันนะคะ

เราขออธิบาย บอกแหล่งคร่าวๆ นะคะ เพราะว่าเราชอบพูดไม่รู้เรื่องบอกทางไม่เป็นด้วยอ่ะดิ แต่จะพยามบอกทางให้ง่ายๆ ที่สุดละกันค่ะ 1.ก๊อกน้ำ / อุปกรณ์สุขภัณฑ์ กระจกห้องน้ำค่ะ อยากได้ถูกสุดๆ รูปแบบปกติ กรอบกลม เหลี่ยม พลาสติก ขนาดประมาณ 20 นิ้ว ซื้อคลองถมนะคะ ร้านที่แบ่งเป็นล็อคๆ ริมสุดฝั่งติดถนน ตรงข้ามร้านขายโคมไฟ ( ที่เป็นร้านโมไฟ4-5 ร้านติดกัน) ราคาที่เดินไล่มาทุกลอค ลอคนี้ ร้านนี้ ก๊อกน้ำถูกสุด คลองถมส่วนมากของจะเหมือนๆ กัน เราเดินมาทุกเจ้า ราคาสุงสุดอยู่ที่ 160 บาท เจ้านี้บอก 100 นึง และยังต่อรองได้อีกนิดหน่อย อย่างก๊อกสนาม ยี่ห้อ sanwa หัวสีแดง แบบมีท่อยื่นออกมาใส่สายยางได้ เจ้าอื่นๆ บอก 80- 85 เจ้านี้ เราซื้อมาได้ 75

กระจกห้องน้ำขนาด 20 นิ้ว ครบชุด พร้อมที่วางของ ราคา 180 บาท ราวสแตนเลสพาดผ้าในห้องน้ำอย่างหรู ร้านนี้ 160 บาท (ทั่นแม่ดิชั้นซื้อ Home... ได้ข่าวว่า 300 กว่า ) กลับมาบ้านไม่กล้าบอกแม่เลย กลัวนอนไม่หลับ เสียดายเงิน 555



2.กันสาด โรงจอดรถ โครงแสตนเลส ถูกสุดที่หามาได้ คื อตารางเมตรละ 2000 บาท พร้อมแผ่นสเปชไลท์ รับประกัน 20 ปี โครงเหล็กที่เคยถาม 1300แต่ไม่ได้ทำ อยากทำครั้งเดียวทนๆ ไม่ขึ้นสนิม เลยกัดฟันแพงรอบแรกทีเดียว โรงจอดรถ คุณหามาได้ถูกจริงแต่ลูกเล่นเขาจะอยู่ที่เสาค่ะ คุณต้องถามว่าเสาแสตนเลส เสาเหล็ก ขนาดเท่าไร บางทีคุยกะเราไว้เสา 2.5 นิ้ว พอวันจริงแกล้งลืมบอกเสาที่ทำคือ 2 นิ้วเงี้ยก็เคยเจอค่ะ และราคาที่เราคุยเป็นตารางเมตรนั่น จะไม่รวมค่าเสา บางเจ้าจะฟันที่เสา เสาต้นละ 2000 เงี้ย เขาแอบถัวๆ กะค่าตารางเมตรที่คิดเราถูกแล้ว ทำไปทำมา เจ้าอื่นที่ทำอาจถูกกว่าค่ะ ดังนั้นถามให้ดี


3.ระแนงไม้สัก ที่ถามมาที่ถูกสุด แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ทำ คิด ตรม. ละ 1500 ไปติดต่อได้ที่ โฮมโปร ราชพฤกษ์ ชั้น 2

4.ผ้าม่าน บ้านเรา แม่ให้เขามาตีราคา เขาบอก 58000 บาทเราเลยหยุดไว้ก่อน แล้วกะไปจ้างช่างสำเพ็ง เย็บผ้าม่านเอง แบบที่หลายๆคนในห้องพันทิพย์นี้แนะนำ คิดราคารวมทุกอย่าง แล้วตกประมาณหมื่นกลางๆ ได้ของแบบเดียวกันกับที่เขาจะฟันเรา 58000 เลย แต่สุดท้าย...เราก็ไปเอาม่านของโฮมโปรที่เซลงานโฮมเอ็กโป อิมแพค ซึ่งเป็นผ้าคล้ายกับที่เราต้องการ จากราคา 1799 บาท / 1.50 เมตร ลดเหลือ 799 บาท + ที่ผูกผ้าม่านคริสตัลอย่างหรูอันละ 59

สำหรับคนที่รอโฮมโปรเซลไม่ได้ ก็แนะนำ วัดขนาดมา แล้ว เข้าพาหุรัดค่ะ เลือกผ้าเอง และแถวนั้น ตามซอกจะมีช่างรับจ้างทั่วไปอยู่ พวกนี้เขาเป็นงานค่ะ ไม่ต้องพูดไรมาก เพราะร้านบางร้านรับงานแล้วทำไม่ทันก็มาโยนงานให้ร้านช่างเล็กๆเหล่านี้ทำแหละค่ะ ฝีมือดีใช้ได้ เพียงแต่เรามองว่าเขาอาจขาดโอกาส เปิดร้านตามงานแสดงสินค้าไม่เป็นก็เท่านั้นเอง 5.เหล็กดัด มุ้งลวด อลูมิเนียม อันนี้ยังไม่มั่นใจว่าเจ้าที่หาได้ ถูกมากแค่ไหน แต่พอแนะนำได้ว่า หากเอาแข็งแรงๆ ก็ต้องเลือก เหล็กเพลา กลม ตัน 4 หุน + เอาสวยต้องเลือก ทำสีเคลือบแบบสีรถยนต์ ทำความสะอาดง่ายด้วย และเงาดีค่ะ

5.พัดลมโคมไฟ คลองถมเช่นกันค่ะ เราซื้อโฮมโปรเซลไปแล้วไม่งั้น เราจะซื้อร้านนี้แน่ เห็นแล้วยังเสียดาย ร้านนี้มีลักษณะร้านที่เป็นตึกแถวใกล้ๆ กับ ลอคคลองถมอ่ะค่ะ ร้านตรงข้ามกับร้านก๊อกน้ำเมื่อกี๊แหละ เป็นแหล่งขายอยู่ติดๆ กันประมาณ 4-5 ร้าน ร้านนี้ พัดลมโคมไฟอย่างหรู คือ ตัวเครื่องกลมๆ สีทองสลักลาย ใบพัดลายไม้สานๆ 5 ใบพัด เครื่องใหญ่ โคม 5 ดวง ปรับระดับได้ ราคา 1650 ยังไม่ได้ต่อราคา ส่วนเครื่องสวยแบบปกติ ราคาเริ่มที่ 890 บาทเองง่ะ.... แชนเลนเดียร์ (เขียนไงหว่า) ร้านแถวนี้เหมือนกัน คริสตัลหลอก ๆ เป็นพลาสติกก็เริ่มที่ 890 เช่นกัน ตอนแรกดูยังตกใจ ไหงถูกจังวะ แต่แฟนบอกว่าพลาสติคมันดำแล้วไม่สวย ไฟแขวนแบบนี้ทำความสะอาดยากด้วย เลยเลือกคริสตัลแท้มา ซึ่งราคาก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิดค่ะ เพราะเคยเดินตามงานต่างๆมาแล้ว เห็นราคาเซล จึงพอรู้ราคาว่ายังถูกกว่าของเซลตามงานไปอีกประมาณ 30 เปอเซนต์

ไฟสนาม ไฟจัดสวน ตอนแรกสนใจแบบพลังงานแสงอาทิตย์ค่ะ คิดว่าประหยัดไฟดี ค่ำปุ้ปก็ไปติดเอง แต่พอเห็นแสงไฟตัวอย่างในเว็บแล้ว... รู้สึกอนาถค่ะ คนขายเองก็บอกว่าถ้าจะใช้โคมแสงอาทิตย์ให้เราเลี้ยงหิ่งห้อยแทนก็ได้ ( เว่อร์ไปมะ อิอิ) เลยตัดใจเลือกระบบไฟฟ้าปกติมา ไม่เอาแสงอาทิตย์ละ ซื้อเสาสีดำสูงขนาด 1 เมตรมา รวมตัวโคมก็อีก 20 ซม ได้ ราคา 850 บาทค่ะ ทั้งต่อทั้งตื๊อเลยเรา กว่าจะได้ราคานี้


6.ประตูไม้สัก ทั้งบานเดี่ยว บานคู่ แกะสลักทั้งสองหน้า หนา 1.5 นิ้ว เนื้อไม้สีเข้ม เอาไม้เก่า ไม่เอาไม้ใหม่เพระกลัวแตก หด (แต่ก็ยังมีหดบ้างนะ)ราคานี้รวมทำสีแล้ว ทำแบบสีธรรมชาติ สีด้านให้เห็นเนื้อไม้เดิมๆ ติดต่อทางแพร่ มีคนหลายคนในนี้ก็เตือนก่อนซื้อบอกว่างานไม่ดีเท่าบางโพ เพราะช่างชาวบ้านๆ นะคะ แต่ว่า เราไปถามบางโพ ราคา 9000 - 11000 สวยจริง แต่...เราก็เจียมตัวอ่ะ เงินไม่ถึงค่ะบอกตรงๆ ทั้งบ้านใช้ไป 10 กว่าบาน เราเลยสั่งที่แพร่ตามงบที่ตัวเองพอจะมี ได้มาบานละ 5500 บาท พร้อมส่ง เราดูไม่เป็นด้วย อาศัยถามๆ เขาเอาและพอดีเจ้านี้เพื่อนแนะนำมาก็เห็นว่าถูกกว่าที่เราถามในนี้เยอะ แต่พอติดมาก็สวยนะคะ พอใจแล้วล่ะนี่เราสั่งทำตู้ไม้สักบิวท์อินเขาอีก ขนาด 3 เมตร ลึก 60 ซม. ต่อรองได้มา 6.7 หมื่นถ้วนแหละ แต่คงดูอีกทีก่อนว่าจะเอายังไง อาจจะลองดูแบบอีกที


7.ทรายล้าง ลายเรียบ หามาได้ราคา ตรม ละ 450 ค่ะ แต่เจ้าอื่น มีลายตารางลายอื่นๆ เขาเอาแค่ 300 เอง รวมปูนทรายแล้ว แต่เจ้าที่เราเรียกมาเขาคิดแพงกว่าเยอะ แต่งานตัวอย่างดูเนียบมากนะ (แต่เรายังไม่ได้ให้ทำของเรา ) ปล. สิ่งที่ต้องระวังสำหรับคนซื้อโง่ๆ อย่างเรา คือ ลูกเล่นของคนขายค่ะ พวกก่อสร้าง ปูน ระแนง ทรายล้าง พื้น กระเบื้อง พวกนี้เวลาคุณต่อรองหรือถามราคา ถามให้หมดนะคะ เช่น คุณถามราคาทำพื้นทรายล้างได้มา 250 บาทต่อรองแล้วเท่านี้ แต่คุณลืมถามว่า รวมราคาปูนทรายด้วยไหม รวมค่าแรงหมดรึยัง เพราะบางเจ้าที่เราเจอ ต่อรองกันจนจะให้มาทำ สุดท้าย เขาจะมาคิดราคาปูนทรายเราเพิ่มอีก ตรม ละ 100-150 งี้ค่ะ พอรวมแล้วก็ไม่ได้ถูกจริงอย่างที่คิด

และงานมันละเอียดอ่อนมากนะ ต้องทำพื้นลาดไปหน้าบ้านเพื่อให้น้ำไม่ขัง พื้นที่เทเพิ่มต้องพอดีกับรางรั้วเหล็ก เซาะร่องน้ำ วัดระดับสารพัด ดังนั้นงานที่เราเห็นว่าเจ้าอื่นทำคล้ายกัน แต่พอมาดูงานเจ้านี้ เราเลยมั่นใจว่าให้เขาทำให้เรานี่แหละ ชัวร์ดีแล้ว :)


8.เวลาย้ายบ้าน เก็บของก็ หนังสือถ้าไม่บริจาคนะคะ ก็ ใส่รถไปขายศูนย์หนังสือ การตั้งราคา ตั้งได้โดยคิดจากหน้าปก 10-50 เปอเซน แล้วแต่ความฮิต สภาพ แต่ดิกชันนารีควรนำไปเจเจ เพราะเป็นที่ที่ได้ราคาดีและเขาจะรับซื้อเสมอคือ ดิกชันนารีภาษาอังกฤษเล่มใหญ่ๆ ค่ะ แต่ที่ต้องขายให้เร็วสุด คือ หนังสือคอมพิวเตอร์เลย เขามักจะไม่รับซื้อเท่าไรเพราะ out เร็ว ต้องดูเวอชั่นเอา ส่วนนิตยสารนี่เขาไม่รับเลยไม่ต้องหอบไป และมันหนักด้วย ขายชั่งกิโลคุ้มกว่าค่ะ

และพวกของใช้ที่เสียดายๆ ของสะสม สามารถโพสรูปและขายถูกๆ เพื่อให้มีคนซื้อเร็ว ๆได้ตามเนตนะคะ เราทำเล่นๆ ไม่คิดว่าจะมีคนสนใจ แต่ตอนนี้ขายมาเป็นเงินขึ้นมาได้หลายพันแล้วค่ะส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าเสียๆ เฟอนิเจอร์ที่ไม่เอาแล้วจริงๆ อย่าเพิ่งทิ้งไปกับรถขายของเก่าค่ะ เพราะเขาชั่งเป็นเศษเหล็กมากๆ กิโลละไม่กี่บาท เรารอรถกะบะรับซื้อของเสียมาซื้อค่ะ รวมไว้หลายๆ ชิ้น แล้วขายเขาก็ได้มาเป็นหลักร้อยบาท จอคอมเสียๆ ได้มา 200 ปรินเตอร์เสียๆ ได้มา 150บาท นี่ยังแอบจดเบอร์โรไว้เลย ไว้รื้อของออกมาอะไรไม่เอาก็จะเรียกเขามาขนไปอีก


9.การซื้ออุปกรณ์เกี่ยวกับ โคมไฟ ไฟซาลาเปา ทั้งหลายเช่นกัน ส่วนมาก คนจะเลือกและต่อราคาจากรูปแบบโคมไฟเป็นหลัก ราคาที่ต่อรองได้ก็จะเป็นราคาของอุปกรณ์หลัก แต่จะลืมเรื่องหลอดไฟไปค่ะ ไฟซาลาเปา เลือกวงซาลาเปาได้แล้ว ต่อรองราคาเสร็จแล้ว อย่าลืมถามเรื่องสตาร์ทเตอร์ หลอดไฟ ชุดของมันว่าราคาเท่าไรค่ะ ชุดของมันราคาที่ถูกที่เราหามาได้คือ ยี่ห้อ veto 32watt แบบประหยัดไฟ ราคาชุดละ 100 บาท ที่ร้านใหญ่สองห้องติดกัน เป็นตึกแถว แยกวัดตึก ริมถนน นั่นหมายความว่า สมมุติค่าวงซาลาเปาเราราคา 170 บาท เราต้อง + 100 เป็นค่าราคาไฟครบชุดแบบนี้นะคะ

สำหรับคนซื้อบ้านใหม่ ขอใบ BOQ เรียกว่าบีโอคิว คือใบบอกสเปคของ บอกราคามาด้วย กันโครงการมันโกง มีอะไรเราเชคตามนี้ได้ว่าของของบ้านเราถูกตามมาตรฐานที่โรงการได้รึปล่าว และนำใบนี้มาดูราคาเวลาเลือกซื้อของเองด้วย เพื่อจะได้คุมงบให้อยุ่ในวงเงินที่โครงการจะเคลมเงินคืนให้ จะได้ไม่บานนนนสำหรับ BOQ โครงการบ้านของเราเคลมของคืนให้ในราคา 250 บาทนี่คือ จุดที่ต้องระวัง เพราะคนทั่วไปที่ไม่รู้เรื่องแบบเรา พอเรารู้ว่า ได้งบเคลมคืนจากโครงการมา 250 บาท มาเลือกเอง เราก็ลิงโลด เลือกตามสบาย ซาลาเปาทั่วไปมักราคาอยู่ที่ 170 - 250 ค่ะ เท่ากับเราเลือกได้อย่างหรูเลย แต่... ที่ไหนได้ละคะ เอาเข้าจริง คุณต้องอย่าลืมถามเขาด้วยว่าชุดสตาร์ทเตอร์และหลอดรวมแล้วอีกเท่าไร ต้องบวกชุดของมันได้ด้วยค่ะ ซึ่งกรณีนี้ชุดที่ถูกสุด คือ 100 บาท เท่ากับงบ วงซาลาเปาที่คุณหาได้คือ 150 บาทค่ะ ( เราเลือกแล้วก็ออกเองไปบางส่วน แต่ก็ทำให้คุมงบอยู่ระดับหนึ่ง ไม่งั้นเลือกแบบ 250 เสร็จเจอบวกชุดไฟไปอีก 100 อวกแตกเลย )


และบางร้านจะลูกเล่นค่ะ ขายโคมถูก แต่หลอดแพงค่ะ คุณไม่จำเป็นต้องเลือกทุกอย่างในร้านเดียวกัน ร้านส่วนมากจะได้ใจค่ะ เพราะเวลาเราต่อรองจะต่อเฉพาะตัวโคม ตัวซาลาเปา พอตกลงกันเสร็จ เขาก็เรียกคนยกของ เชคของเอาลงมา แล้วเขาก็จะถามค่ะว่า หลอดไฟล่ะ เอาไหม? หรือบางที เขาก็หยิบหลอดมาเลยค่ะ เตรียมให้เราแล้วก็บวกเงินเราไปแบบเนียนๆ เราจะลืม / ไม่ได้ต่อของเพราะมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย เราได้ต่อรองตัวสำคัญไปแล้ว ทำนองนี้ที่ไหนได้ล่ะ... เราจะบอกว่า แชนเลนเดียเรา ใช้หลอดไฟทั้งหมด 20 หลอดค่ะ หลอดกลม หลอดละ 20 บาท มันเงิน 400 แล้วนะคะ ร้านได้เนียนๆเลย หลอดใหญ่แบบขดอีก 1 หลอด เขาขายเรา 120 ค่ะ เราแกล้งโวยวาย บอกไรกัน โฮม....เซลยังถูกกว่านี้เลย ไม่งั้นมาเดินที่นี่ทำไม ขายแพงกว่าอีก (จริงๆ แล้วเราจำราคาไม่ได้หรอกว่ามันเท่าไร ) เจ๊คนขายเขาก็ถามเลยว่า เท่าไร เราก็บอกราคามั่วๆ ไปค่ะ เราบอกว่า ไฟกลม ขาย 18 บาท หลอดขดสีเหลืองขาย 95 เองเขาก็บอกว่า ไม่จริงอ่ะ ถูกยังนั้น เราก็บอกว่า นี่ไม่รวมมแถมเสื้อตัวนึงด้วยนะ เราคิดในใจว่า เขาขายได้เขาคงยอมขายเองแหละ ถ้าราคามันขายไม่ได้จริงๆ เราค่อยยอมซื้อ ไม่ก็ไปหาซื้อเฉพาะหลอดไฟร้านอื่นก้ได้ ปรากฏว่า เขาบอก อ๊ะๆๆ หยวนๆ เราเลยได้ของมาด้วยประการฉะนี้


10.มาต่อกันที่ปั๊มน้ำ กับแท๊งค์เก็บน้ำค่ะ ปั๊มน้ำ ยกให้คุณพี่ต้นโพธิ์ต้นไทร เกจิปั๊มน้ำที่พันทิพย์ ห้องชายคานี่เลย เราส่งเมลถามรุ่น ยี่ห้อพี่เขา ได้ความช่วยเหลือ ทำให้ได้ปั๊มที่มีคุณภาพ ราคาไม่แพง พร้อมของแถม แต่งานมันหมดไปแล้วดิเนี่ย เราซื้องานโฮมโปร เอ็กโป ค่ะ ปั๊มน้ำแบบเหลี่ยม แรงดันคงที่ ยี่ห้อ ฟูจิกะ Fujika 250แรงข้อความต่อไปนี้ เครดิต คือ พี่ต้นโพธิ์ต้นไทรที่กรุณาตอบให้เราและสอนเราให้พูดกับช่างที่มาติดปั๊มน้ำนะคะ " ช่างทั่วไปมักจะโมเมอ้างโน่นอ้างนี่ แล้วไปใช้ท่อ6หุน(1นิ้วมี8หุน) ซึ่งจะถูกกว่าท่อขนาด1นิ้ว เมื่อรวมกับวาวล์และอุปกรณ์อื่นๆแล้ว ก็จะยิ่งเหลือตังมากขึ้น เราก็ไม่รู้ว่าคุณไปตกลงกับทางโฮมโปรเรื่องการติดตั้งว่าอย่างไร เท่าไหร่บ้าง ก็ให้เสียงแข็งกับช่างไปก่อน ให้ใช้ท่อ1" ห้ามใช้วาวล์PVC ใช้เหตุผลว่า ปั๊มเค้าออกแบบมาให้รูท่อน้ำเข้าน้ำออกมีขนาด 1" ถ้าเค้าอยากจะให้ใช้ท่อแค่6หุน ทำไมเค้าจึงต้องออกแบบรู1นิ้วด้วย..... " จบค่ะ


สรุปง่ายๆ ก็คือ การติดตั้งปั๊มน้ำ ต้องพยามดูว่าช่างใช้ท่อขนาดใดให้เรา เพราะช่างจะอยากประหยัดของของเขาค่ะ ต้องดูให้เป็นท่อ และวาล์วขนาด 1 นิ้ว ทองเหลืองจะดีค่ะ ค่าติดตั้งที่เราจ่ายให้โฮมโปร คือ 1900 บาทค่ะ แต่นอกงานเซล รู้สึก 2500 บาท ซึ่งราคานี้ คุณควรได้อุปกรณ์ทองเหลืองค่ะ อย่าไปยอมรับพีวีซีนะคะ วาล์วก็หาซื้อคลองถมมาให้ช่างเปลี่ยนเองก็ได้ค่ะ ถ้าเขาไม่ยอมเปลี่ยนทองเหลืองให้เราจริงๆ ราคาทองเหลืองวาลืวที่หาได้ คลองถม ร้านริมถนน ตรงข้ามกับร้านตึกแถวขายโคมไฟเยอะๆ ซื้อมาได้ 200 ถ้วน (เจ้าอื่น 220-250)

และตอนซื้อปั๊ม คุณควรต่อรองหรือถามให้เรียบร้อยว่าราคานี้รวมค่าติดตั้งหรือไม่ เพราะที่เราเจอมา คือ ค่าปี๊มน้ำถูก แต่มาคิดค่าติดตั้งแพง พอเราต่อรองของแถมเสร็จ เขาเพิ่งจะมาบอกว่ามีค่าติดตั้งอีกต่างหากค่ะ ถ้าเป็นไปได้ คุณควรถามให้เสร็จและต่อรองไปเลยทีเดียว เพราะเซลเขามีอำนาจตัดสินใจได้ อย่างน้อยๆ ก็ของแถม เราได้ที่กดสบู่ล้างมือมา 2 เครื่องและเสื้อเหลือง 1 ตัว ค่ะส่วนแทงค์น้ำ เราใช้เป็นรุ่นใหม่ ขนาด 1000 เนื้อแกรนิต ยี่ห้อ Greentea ปกติยี่ห้อนี้ราคาจะสูงกว่ายี่ห้ออื่นหน่อยนึงค่ะ ตามโฮม... ในงานที่เราเจอ คือ 7500 บาท แต่เราไปซื้อ แถวจรัญสนิทวงศ์ 20 ค่ะ ร้านริมถนน ชื่อ วีโฮม ขายราคา 5500 บาท (แอบกระซิปว่าตอนนี้ ของราคาทยอยขึ้นนะคะ เราให้เพื่อนไปซื้อล่าสุดไม่ได้ราคานี้แล้วค่ะ ขึ้นมาอีก 500 บาท แต่ก็ยังถูกกว่าที่อื่นอยู่ดี)


11.ตี่จู้เอี๊ย สำหรับบ้านที่ต้องการหินอ่อนนะคะ ขนาด 24 นิ้ว ราคาอยู่ที่ 19500-22000 ประมาณนี้ค่ะ เราซื้อ 17500 ค่ะ และแอบกระซิปว่า ให้ต่อรองเป็นหินอ่อนสีชมพูนะคะ สวยกว่าและแพงกว่าด้วยค่ะ อยู่ที่ร้านเขาจะยอมหยวนให้น่ะแหละ ลองดู เพราะเราทำมาแล้ว


12.บานประตูห้องน้ำ โครงการบางที่ให้เป็นไม้แย่ๆ มาอีกหน่อยก็ราขึ้น เราเลยเปลี่ยนค่ะ เป็นประตู pvc เจ้าที่ราคาถูกสุด คือ ขนาด 70*200 พร้อมวงกบ มีลูกบิดให้ด้วย ราคาชุดละ 525-850 บาทค่ะ แต่แอบบอกก่อนว่าราคานี้พลาสติคมันไม่ได้ดีมากนะคะ ก๊องแก๊งใช้ได้ ซึ่งสุดท้ายเราไม่ได้เลือกมา เราเลือกแพงกว่านั้นมาหน่อยนึง คือ 1200 บาท มันสวยกว่าเยอะเรื่องบานประตูห้องน้ำนี่เช่นกัน ลูกเล่นอยู่ที่ลูกบิด กับวงกบค่ะ บางที่ประตูถูก แต่วงกบและลูกบิดแพง ซึ่งเวลาซื้อคนส่วนใหญ่ก็จะซื้อพร้อมทั้งชุด ไอ้วงกบน่ะใช่ จำยอมค่ะ แต่ลูกบิด แนะนำร้านนะคะ คลองถมค่ะ ร้านที่ในร่มเป็นลอคๆ น่ะแหละ เดินหาศาลเจ้าให้เจอ จะมีร้านขายกุญแจและลูกบิดร้านใหญ่ๆ ร้านนึงค่ะแถวนั้น ร้านนั้น ลูกบิดทั่วไป ติดห้องน้ำ ราคา 45 บาท ที่ร้านหรือพวกช่างมักจะฟันคุณชุดละเป็นร้อยค่ะ ( ลูกบิดห้องน้ำไม่ได้ลอคอะไรมากมาย ไม่ต้องเลือกเว่อร์ๆ หรอกค่ะ เอาถูกๆ ก็พอ เราซื้อแบบถูกสุดค่ะ )


13.อุปกรณ์แสตนเลสทั้งหลาย ที่ตากผ้า ที่คว่ำจาน ที่แขวนหม้อชาม ไหทั้งหลายแหล่ อันนี้ห้ามซื้อคลองถมค่ะ แพงงงงงงงงงงงงงงง คลองถมพึ่งได้แต่เฉพาะราวแขวนผ้าในห้องน้ำค่ะ เจ้านี้ทำส่งโฮม... บุญ... ค่ะ เราไปเดินดูมาแล้วยี่ห้อนี้ แต่เราตามไปซื้อถึงร้านขายส่งเขาค่ะ ร้านอยู่บริเวณ ใกล้ตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรีฝั่งเดียวกันนะคะ ราคาถูก 35-50 เปอเซนต์ค่ะ ซื้อเสร็จแล้ววไปเดินห้างสำรวจราคา พบว่าของเราถูกกว่าเยอะ ช่างมีความสุขจริงเล้ยยย (โรคจิตเนอะ )


14.เรื่องจ้างโฟร์แมนมาคุมงานต่างหาก เพื่อดูงานโครงการโดยตรง ว่ามันมั่วให้เราไหม ... เราเคยคิดจะทำ เกือบติดต่อแล้วด้วย

15.แต่ว่า ก็คิดว่าไม่ควรค่ะ เนื่องจากเอาโฟแมนมาจากที่อื่น มาคุมบ้านเรา โครงการที่เราซื้อเขาก็มีโฟแมนของเขาเอง (แม้จะไม่ค่อยมาดูแลก็ตาม) มันจะเป็นการเอามาเขม่นกันน่ะค่ะ เขาอาจจะหมั่นไส้ได้ จะแกล้งอะไรเราก็ไม่รู้ แล้วโครงการเขาก็มีคนของเขาที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว เลยไม่อยากเอามาอ่ะค่ะ อาจจะทำให้เข้าใจได้ว่า กลายเป็นไม่วางใจโฟแมนเขา เราเลยอาศัยเนียนๆ เอาเพื่อนที่เป็นวิศวะบ้าง เอารุ่นน้องบ้าง เข้ามาช่วยดู แล้วบอกคนงานหรือโฟแมนที่เราเจอ ว่าเป็นญาติ แต่ให้มาดูแล้วให้เขาบอกเราว่าส่วนไหนต้องปรับปรุง ต้องสังเกต แล้วเราจะเป็นคนพูดกับโครงการเอง ไม่ให้เขาไปเป็นคนพูดค่ะ เพื่อลดการปะทะกันไป เพราะเราจะไปรู้ได้ไงจริงไหม ว่าเขาอาจหมั่นไส้ก็ได้ เกิดเขาแกล้งเอาปูนหยอดท่อระบายน้ำบ้านเรา หรือผสมปูน ฮาบไม่สวยแค่นี้ บ้านเราก็แย่แล้วกว่าจะเชคเจอปัญหา บ้านได้เละก่อน ( มีคนเล่ามาแบบนี้ ไม่รุ้เว่อร์ไปไหม แต่กลัวไว้ก่อน)แต่ที่เราเจอเอง คือ คนงานอ่ะค่ะ ชอบลาหยุด มาทำแล้วหยุด และเปลี่ยนชุดเปลี่ยนกลุ่มไป และเขาไม่พอใจที่เราไปติว่าเขาปูกระเบื้องไม่สวย ใส่ปูนไม่เต็มแผ่นทำให้กระเบื้องด้านในกลวง เขาก็งอน เลยวางยาบ้านเราค่ะ ปูเบี้ยวกว่าเดิมและทิ้งปัญหาไว้ และลากลับบ้านไปเลย โครงการต้องเปลี่ยนคนงานชุดใหม่มาทำสรุป เราเลยพยามเข้าไปคุมเองส่วนใหญ่ค่ะ แต่พยามเอาคนรุ้เรื่องไป แล้วบอกว่าเป็นเพื่อน เป็นญาติ ส่วนเรื่องเชคงานค่อยให้ผู้รู้มาเชคทีหลัง แต่ระหว่างทำบ้านอยู่ไม่เอาไป


16.แนะนำว่า พยายามเข้าไปตรวจดูบ้านด้วยตนเองค่ะจากประสบการณ์ที่เราเจอนะคะ ..เรายังไม่เคยเจอช่าง วิศวะ โฟแมน คนงาน ในโครงการของเราที่วางใจได้เลยค่ะ เราบอกตรงๆ ว่าเราเกลียด + เข็ด จากการสัมผัสคนที่โครงการของเรามา เราบอกได้เลยว่า ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเองค่ะ เราจะต้องทุ่มเทให้เวลาบ้านพอสมควรเลย มีตัวอย่างเล็กๆ น้อย มาเล่านะคะ ประวัติศาสตร์อาจไม่ซ้ำรอย แต่หากคุณรู้แล้วควรระวังไว้อย่าให้ประสบกับบ้านของคุณค่ะ คนที่คิดทำแบบนี้ก็ควรช่างใจเยอะๆ นะคะ


( 1.เราเห็นเพื่อนบ้าน พูดดี ทำดีกับคนงานค่ะ หวังให้เขาทำงานดีๆ ให้กับบ้านของเขา ซึ่งเราเองก็พูดดี ทำดีกับเขาค่ะ แต่ทำ "พอดีๆ " ในแบบฉบับของเรา พอประมาณ ไม่ถึงขนาด... ซื้อก๋วยเตี๋ยว ของกิน ยกเหล้ามาเป็นลังๆ ให้เขาแบบเพื่อนบ้านเราค่ะ บทเรียนที่เขาได้รับคือ คนงานเหล่านี้กินเหล้าที่เขานำมาให้เวลาทำงาน โฟแมนไม่มาคุมอยู่แล้ว ส่วนวิศวะไม่ต้องพูดถึง ในทางปฏิบัติคนงาน ช่างทั้งนั้นค่ะที่จะสร้างบ้านเรา ดังนั้นการตัดสินใจ การแก้ปัญหาทั้งหลายไม่ถึงคนระดับบนขึ้นไปหรอกค่ะ เขาคิดและทำกันเอง สิ่งที่เพื่อนบ้านเราเจอ คือ คนงานที่เมาเอาสีทาบ้าน (ที่เพื่อนบ้านเราซื้อไปวางไว้ รอให้ช่างสีมาทา) คนงานเมานำสีมาทาบ้านค่ะ ทาโดยไม่มีความรู้ ไม่ใช่ช่างสีค่ะ ไม่ได้รองพื้นด้วย..... สีที่คนงานเมาเอามาทาคือ TOA Super Shield เพื่อนๆ ห้องนี้ที่เคยซื้อคงทราบราคาดีกว่ากระป๋องใหญ่ราคาเท่าไร และเขาทาซะเยิ้มเลยค่ะ ทาไม่ทั่วด้วย....ด้วยเหตุผลที่เข้าใจว่าเพื่อนบ้านเราเร่งงาน เลยซื้อเหล้าซื้อของมาฝากเพราะอยากให้เขาทำงานเสร็จเร็วๆ ค่ะ เลยพาซื่อ รีบทำจะเอาใจเจ้าของบ้านด้วย.... นี่คือคำสารภาพจากปากของคนงานก่อนกลับบ้านไป.............

(2.โฟแมนค่ะ เพื่อนบ้านเรามองว่าโฟแมนคือคนคุมคนงาน ใกล้ชิดและสนิทกับคนงานมากกว่าวิศวะที่แทบไม่มาดูเลย เลยหวังเอาใจโฟแมน ซื้อข้าวของกินมาฝากเช่นกัน และเกิดคุยถูกคอ ถูกใจ ถึงขนาดให้โฟแมนยืมเงินไปใช้ค่ะ และกรณีนี้ ต่อมาเจ้าของโครงการเล่าให้เราฟังเอง ว่า เขาเคยเตือนเพื่อนบ้านคนนี้แล้วเรื่องให้โฟแมนยืมเงิน ว่าเป็นกรณีที่โครงการไม่ขอเกี่ยวข้องนะ ให้เขาคอยทวงและรับผิดชอบกันเอง ท่านเพื่อนบ้านรายนี้ก็ยินดีค่ะ บอกว่าที่ให้ยืมเพราะเงินไม่มากเท่าไร โฟแมนจะได้เกรงใจ เผื่อใช้ให้มาต่อเติม ซ่อมแซมทำอะไรที่บ้านจะได้เรียกใช้ง่ายๆ ผลคือ โฟแมนเชิดเงิน เรียกก็ไม่มา ตามก็ไม่เจอ ส่วนเรื่องงานต่อเติมบ้านนั้น ไม่ต้องหวังค่ะ อุอุ..

(3.เรื่องคนงาน / หัวหน้าคนงาน / ช่าง บ่อยครั้งที่คนงานบางคน ทำงานเข้าตาเราค่ะ คือ ทำดูดี ท่าทางเก่ง เป็นงาน ฉาบสวย ปูกระเบื้องเนี๊ยบ หรือ การที่หัวหน้าคนงานดูใส่ใจทำบ้านให้เราดี แล้วเสนอตัวหรือให้คำแนะนำในการต่อเติมบ้านเราค่ะ หรือบางครั้งเราเองนั่นแหละที่คิดไว้แล้วว่าอยากต่อเติมบ้าน อยากทำครัวเพิ่ม อยากเพิ่มกันสาดจุดนี้ อยากเทปูนจุดนั้น อยากปูกระเบื้องเพิ่มจุดนู้น บางรายโชคดี ตกลงกับช่าง (ที่อยากรับงานนอกอยู่แล้ว) ได้ราคาถูกบางรายไม่รู้เรื่อง (แบบเรา) ว่าเขาควรคิดราคาเท่าไร ใครว่าอะไรดีก็เชื่อเขาสะก่อนละ ช่างบอกเท่าไรก็ตกลง เพราะมองว่าให้ช่างของโครงการทำไปเลยทีเดียวบางรายนำช่างมาทำเองแต่ไม่ว่าแบบไหน... สิ่งที่ทุกคนต้องเจอ คือ เมื่อเกิดปัญหา ทางโครงการเขาจะไม่รับผิดชอบค่ะ เพราะเขามองว่า คุณไปตกลงกับช่างเอง ไม่ได้ผ่านเขา ซึ่งปัญหาหลักๆ ที่มี คือ ช่างทิ้งงาน ช่างทำชุ่ยไม่ตรงที่บอกไว้แต่แรก หรือแม้แต่ปัญหาพื้นทรุดค่ะ 3 อย่างนี้เจอบ่อยเลยสิ่งที่แนะนำว่าคุณควรทำคือ ต้องแจ้งให้โครงการรับรู้ค่ะและทำสัญญาจ้างโดยดึงโครงการเข้ามาเป็นผู้รับจ้างทำของด้วย (ถ้าจะเอาช่างของโครงการ) โดยรีบคิดและตกลงทำตั้งแต่แรกๆ ที่ตัดสินใจซื้อบ้าน เพื่อให้มีคนรับผิดชอบงานของบ้านเรา หากเกิดกรณีทิ้งงาน ทำเสีย พื้นทรุด ฯลฯ เพราะทำโดยโครงการค่ะ เขาจะมาปฏิเสธไม่รับผิดชอบไม่ได้ แต่แอบบอกไว้ก่อนว่าที่เราแนะนำคงใช้ได้แต่โครงการหมู่บ้านเล็กๆ เพราะโครงการใหญ่ เขาไม่ง้อ ไม่สน ไม่รับทำให้เท่าไร และถ้ารับทำจะแพงมากด้วย

(4.เราไม่เป็นเรื่องดูบ้านเลย แต่เราอาศัยมองละเอียดๆ เอาอ่ะค่ะ เราจะพยามหารอยร้าวว่าบ้านมีรอยจุดไหน จะซื้อเทปกาวมาแปะเป็นจุดๆ ให้ช่างแก้ และเอามือถือถ่ายรูปไว้ในจุดที่ร้าวหรือมีปัญหา เพื่อกันลืม เพราะถ้าคุณชี้ให้ช่างหรือคนงานแก้ไข เขาจะรับปากแต่ไม่ทำค่ะ ต้องจี้ๆๆ จิกๆๆๆ บางทีเขาก็ลืมไม่ได้ใส่ใจให้เราเท่าไร เราต้องเอาเทปกาวที่เป็นกระดาษฉีกๆ ได้อ่ะคะ แปะไว้เป็นจุดๆ และใช้มือเคาะตามผนัง เสา ไปเรื่อยว่าเสียงมันแปลกจากเดิมไปไหม เสียงกลวงๆ ดังป๊อกๆ แสดงว่าข้างในไม่มีปูน โบ๋ไป ไม่แข็งแรง ให้ช่างเอาลูกหมูมาผ่าแล้วทำใหม่เลย พวกนี้ก็เคาะไปเรื่อยทั้งบ้านจนมือเจ็บ 5555 แล้วมาร์คไว้เป็นจุดๆ เช่นกัน

(5.สุขภัณฑ์ โดยเฉพาะโถ อย่าเพิ่งเห่อนะคะ เลือกซื้อของได้ แต่อย่าเพิ่งเอาไปให้เขาติดค่ะ ให้ติดสุดท้ายเลย หลังจากบ้านเกือบเสร็จหมดแล้วและมีประตูบ้านพร้อมกุญแจลอคไม่ให้คนนอกเข้าแล้ว เพราะของของคุณจะถูกเขาเปิปบริสุทธิก่อนใครเพื่อน โดยเฉพาะบ้านที่มีน้ำเข้าแล้ว สบายคนงานเลยค่ะ และบ้านที่ยังไม่ติดสุขภัณฑ์นะคะ ทางโครงการจะมีท่อที่ต้งไว้เตรียมติดตั้งสุขภัฒฑ์ ท่อนั้นจะเสี่ยงอุดตันจากเศษปูน หินดินทรายได้ง่าย เพราะบ้านยังเละๆ สร้างไม่เสร็จ ให้หากระสอบข้าว มาคลุมท่อเหล่านั้น แล้วเอาเชือกมัด ( ทำแบบหุ้มขวดแชมเปญอ่ะ นึกออกป่าวคะ) โดยเฉพาะท่อที่เตรียมติดตั้งโถชักโครก เพราะว่าท่อจะใหญ่ และตั้งแนวที่ฝุ่น ปูน ทรายมีโอกาสตกลงไปเยอะมากกว่าท่อที่วางแนวขวางอื่นๆ

ต้องบอกก่อนว่า ที่เราพิมพ์มันมาจากประสบการณ์ที่เราเจอเอง และเกิดจากการหาข้อมูลมั่วเอาเอง อาจถูกบ้าง ผิดบ้าง คงต้องรอผู้รู้มาแชร์นะคะ จริงๆ เราก็คิดนะ ว่าถ้าเรายอมไกล เราจะได้บ้านโตๆ สวยๆ กว่านี้ เพราะหลังนี้ 60 กว่าตารางวา ด้วยราคา 4 ล้านกว่า แต่เมื่อเราเปรียบเทียบกับความสะดวกสบายหลายๆ อย่างแล้ว เราก็ไม่เสียใจที่เลือกบ้านหลังนี้ค่ะ บ้านใหม่ที่เราเลือกเป็นย่านเดิม ซอยห่างจากบ้านเก่าประมาณ 2 ป้ายรถเมล เราคุ้นเคยกับย่านนี้เลยไม่อยากไปไกลค่ะ เราคิดว่าการเลือกทำเลบ้านใหม่ที่ใกล้กับวิถีชีวิต ที่ทำงาน บ้านเดิม ใกล้ครอบครัวของเรา ที่เรียน ต่างๆ เหล่านี้มีแง่ดีนะคะ ตรงที่เราสามารถให้เวลากับการไปดูแลบ้านหลังน้อยของเราได้อย่างสะดวก ไม่เสียเวลาเดินทางมาก ทำให้ไปดูได้บ่อย ยกตัวอย่างเช่น สมมุติบ้านเราอยู่ย่านบางกอกน้อย จรัญสนิทวงศ์ เราเรียนท่าพระจันทร์ เราไปปลูกบ้านย่านรังสิตคลอง 3อย่างต่ำๆ การเดินทางไป กลับระหว่างบ้านเดิมกับบ้านใหม่ต้องไม่ต่ำกว่า 3 ชม. ต่อครั้งแน่ ไม่รวมค่ากินข้าวนอกบ้าน ค่าน้ำมัน ทางด่วน และเวลาที่เราจะเสียไป เราว่ามันเสียค่าใช้จ่ายเดินทางเยอะเลย ถามว่ากว่าบ้านจะเสร็จเป็นไง เทียวไปเทียวมาแบบนี้...เราว่า เราเสร็จก่อน.... ได้เหนื่อยตายคาที่แน่ เพราะเราเป็นคนที่ออกไปคุมงาน ดูบ้านใหม่ทุกวันค่ะ หากไปไกลๆ ก็ไม่ไหว เราให้ความสำคัญกับการดูแลบ้านระหว่างสร้างนะ รายละเอียดมันเยอะมาก คุณจะรู้เลยว่าการมั่วและแก้ปัญหาสไตล์คนงานกินค่าแรงรายวันมันเป็นยังไง ทุกวันมันมีปัญหาค่ะ และเขาจะแก้ปัญหาให้บ้านเราแบบเขา แต่ถ้าเราไปเองตลอด ได้มีโอกาสตัดสินใจ ดูแลบ้านของเรา เราจะแก้ปัญหาสไตล์บ้านของเรา ความใส่ใจมันต่างกัน ซึ่งเราเชื่อว่ารายละเอียดยิบย่อยพวกนี้ล้วนมีส่วนให้บ้านแข็งแรง สวย งานเนี๊ยบทั้งนั้น และไม่ต้องปวดกบาลภายหลัง (แต่ขนาดดูแลดีๆ ยังมีปัญหาเลย) เพราะเขามักจะอ้างว่าแก้ไม่ได้แล้ว ยากแล้ว เราจึงต้องเพียรไปดูเพื่อแก้ตั้งแต่ต้น ยังทุบได้ รื้อได้ เราเคยไปบ้านเพื่อนคนหนึ่ง มันเป็นคนหน้าชื่นอกตรม ชื่นใจเวลาคนชมบ้านสวย แต่ทรมานเวลาตีรถออกเดินทางเข้าเมืองไปห้างซื้อของตุนตู้เย็นค่ะ ผักบ้านมันเหี่ยวๆ ลืมแฟ้บ ลืมซื้ออะไรทีต้องจดลิสไว้ รออาทิตย์หน้ามีเวลาค่อยซื้อห้างรวดเดียว อาหารทำไม่เป็น เป็นองค์หญิงข้าวถุง ซื้อเป็นถุงๆ เตรียมอุ่นลูกเดียว อีกเรื่องที่ต้องคำนึง คือ เรื่องโรงเรียนของลูกค่ะ คือ เราเป็นคนที่มีประสบกรรมไม่ดี ตอนเด็ก บ้านอยู่ไกลจากโรงเรียนมาก ต้องให้คุณแม่แซะออกจากที่นอนตอนตี 5 เพื่ออาบน้ำแต่งตัว และเสียเวลาร้องไห้ก่อนไปเรียน รอรถตู้มารับเป็นคนแรก กินข้าวในรถตู้ และกลับบ้านตอนหกโมงกว่าๆ เป็นคนสุดท้ายของรถ... เพียงเพื่อได้เรียนในโรงเรียนคอนแวนต์ย่านสาทร จำแม่นฝังใจว่าทรมานมาก สาบานว่าวันหน้าถ้ามีลูกหลาน จะไม่ทำงี้เด็ดขาดดดดดดและไม่ว่าคุณจะสร้างบ้านเอง ซื้อบ้านสร้างเสร็จ หรือจ้างคนมาคุม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เรามั่นใจคือ ทุกคนไม่มีใครทำถูกใจเราหมดค่ะ จ้างบริษัทสร้างบ้านดีตรงที่ตอบโจทย์เราได้มากสุด ได้ออกแบบบ้านตามต้องการ แต่ก็เสี่ยงเขาทิ้งงาน ผุ้รับเหมาเปลี่ยนหน้า

บริษัทดีๆเชื่อถือได้ ก็แพง อยากได้รับเหมาถูกก็ต้องเสี่ยงเอา แม้ซื้อบ้านสร้างเสร็จแล้วก็ต้องต่อเติมค่ะ ไม่เคยเห็นบ้านไหนไม่ต่อเติม และจุดนี้แหละ ที่มันจะงบบาน เสียเวลา ( ส่วนมากเห็นต่อครัวกันทั้งนั้น) สรุป ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน มีปัญหาทั้งนั้น แต่คุณจะได้เปรียบหากเลือกทำเลบ้านที่ไปดูเองได้สะดวก โครงการเราก็เป็นโครงการเล็กๆ ชื่อไม่ดัง ไม่มีใครรู้จักด้วยซ้ำ เราซื้อตอนกำลังสร้างอยู่ค่ะ สั่งเปลี่ยนแบบไปเยอะเหมือนกันให้ตรงกับความต้องการเรามากสุด แต่ก็มีข้อเสียคือ งบบาน บ้านเสร็จช้ากว่าเดิม และเหนื่อยมากต้องคอยคุมงาน คนงานมั่ว ทำผิดคำสั่งประจำ แต่ข้อดีคือ บ้านยังสร้างไม่เสร็จอยากเปลี่ยนอะไรก็ทำได้ทัน ไม่ต้องทุบทิ้งแบบคนซื้อบ้านเสร็จแล้ว มันเสียของน่ะ สงสารบ้านช้ำหมดทำเลบ้านสำคัญจริงๆ ค่ะบ้านคนธรรมดาอย่างเรา ชีวิตหนึ่งเราก็คิดนะ ว่าเราจะมีปัญญาซื้อบ้านสักกี่ครั้งเชียว ทำได้เท่าไรก็ทำให้ดีที่สุดค่ะ ดังนั้นทำเลจึงสำคัญมาก ไกลของเราแต่ใกล้ของคนอื่น ใกล้ของเราแต่อาจไกลของคนอื่น กรณีนี้ ใครก็ตอบไม่ได้ นอกจากตัวคุณค่ะ เชื่อตัวเองเรื่องทำเล... ;)



หวังว่าข้อมลเล็กๆ น้อย ที่มาบอกเล่ากันนี้ อาจเป้นประโยชน์แก่ผุ้อ่านที่สนใจซื้อบ้าน แต่งบ้านกันบ้างนะคะ

ไม่ได้อัพบลอคมานานเลย... จะมีใครมาอ่านไหมก็ไม่รู้ 555 ไม่เป็นไร ลงเอามันส์ เพราะจริงๆ ข้อมูลเหล่านี้ก็เคยแนะนำเพื่อนในพันทิพย์มาหลายทีแล้ว คิดว่าจะรวบรวมเป็นแหล่งข้อมูลแบบเก็บตกกันเอง ให้ครบๆ ต่อไป


สวัสดีค่ะ

สื่อโง่...แล้วยังแกล้งโง่เพิ่มอีกด้วย!

เขาขอความร่วมมือไม่ให้เสนอข่าว หรือพูดถึงมัน
วิทยุชุมชน ออกเสียงของมัน ก็โดนปิด
รายการที่สนับสนุนมันก็ถูกเปลี่ยนผังทิ้ง

เหมือนจะดี...แต่มันก็ฉลาด สร้างสถานการณ์
ซื้อทีมฟุตบอลในช่วงโค้งเสียวนี้พอดี(จัง)
ยิงปืนนัดเดียว ได้ควายทั้งฝูง...
ควายการเมืองที่ชอบฟุตบอล
ควายเสพสื่อทั้งหลายได้ดูมันออกข่าวแบบเนียนๆ
ควายที่ถูกเบี่ยงเบนประเด็นสนใจ จากคดีมาเป็นฟุตบอล
ควาย ควาย ควาย ฯลฯ


เราก็คือควายเหมือนกัน!!!

วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 17, 2550

กะต๊อบของเรา


หน้าบ้านจ้า








ห้องน้ำ ใกล้กับครัว
























เอ... ทำไมเอาส้วมมาให้เห็นก่อนเลยนะ เย้ยย





หน้าบ้านก่อนดีกว่า


สนามหน้าบ้าน พร้อมเจ้าของบ้าน(เสื้อฟ้า) ไม่ใช่กางเกงแดง














ครัวๆๆ















ภายในบ้าน
























บ้าฟระ...สลับไปมา เฉยเลย เด๋วในบ้าน นอกบ้าน มั่วไปหมด แล้วแต่กดรูปได้ 555





ประตูทางเข้าหน้าบ้าน




























ข้างๆ บ้าน กว้าง ประมาณ 3 เมตร ยาว 15 เมตร กะเอาไว้ตากผ้า






หน้าบ้าน.. ซุ้ม เข้าบ้านยังไม่เสร็จเลย













หลังน้อยๆ แต่ถูกใจทำเลเป็นการส่วนตัว... อยู่ใกล้กรมบังคับคดี เขตบางกอกน้อย มาเรียนท่าพระจันทร์สะดวก ดาลิ๊งมาทำงานก็สะดวก อิอิ




















































































เกือบแล้ว...


ไม่ได้อัพบลอคนาน...มาก... จัง


แต่คราวนี้ อย่าว่าแต่ไม่ได้อัพเลย มัน... อัพไม่ได้!


เข้าเวบบลอคเท่าไรก็เข้าไม่ได้ .. มันบอก พาสเวิดผิด แม่เจ้าโว้ยย


เจ๊รอนานมาก พยามทุกวิธี ยังดีนะ ที่ระบบป้องกันของมันดี มีการให้ลงเมลเอาไว้แต่แรก และคนเปลี่ยนพาส..ก็โง่ใช้ได้ที่ไม่เข้าแก้ข้อมูลในเมลของเรา ดังนั้น จึงให้บลอคสปอต ส่งเมลมาบอกพาสใหม่....


สำเร็จ

วันเสาร์, กันยายน 23, 2549

A love without good-byes.....






so excited to see what my love is gonna be !

:) Joop ! Joop!

วันจันทร์, กรกฎาคม 24, 2549

ลองดูสิ ว่ามีคนเข้ามาบลอคเราไหม ฮี่ ฮี่

โหมดโรคจิต !!!

อยากรู้ว่ายังมีคนเข้ามาอัพเดทบลอคเราไหม ไม่ได้อัพตั้งนาน มัวแต่ทำงานวิจัย เรียน กลับมาบ้านก็เอาแต่คุยกะ...
มานับเลขกัน เพื่อไม่ให้บลอคมันตัดสายสะดือออก เด๋วบลอคเราถูก กกต ยุบเพราะไม่อัพเดทละแย่เลย
สัญญา ว่าจะมาอัพแน่ๆ มีเรื่องเยอะแยะเลย โย่วๆ

มานับเลขที่คอมเม้นกันนะ อยากรู้จริงๆ ว่ายังมีคนเข้ามาเหลียวแล

วันพุธ, พฤษภาคม 10, 2549

ซี่รี่ย์เกาหลี





เคยรู้สึกว่าตัวเองติดนิสัยเคยชินกับการเปิดทีวีช่องไหนเป็นพิเศษไหม?
เราเองเป็นคนหนึ่งที่ชินกับการกดรีโมทช่อง 3 มาก
เอะอะอะไร เอาช่อง 3 ไว้ก่อน

และ ...นี่แหละที่เป็นสาเหตุให้เราติดละครของช่องสามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้... โดยเฉพาะเรื่องแดจังกึม แม้จะถูกนำมาฉายเป็นรอบที่สองแล้วก็ตาม

ครั้งหนึ่งเคยเป็นคำถามที่เรารุ้สึก “ ทำไมมันโปรโมทเว่อร์จัง” และเคยรู้สึกต่อต้านกับ T-SER “ผู้หญิงที่ใช้ลิ้นจนได้ดี” แบบนี้ด้วย
เพราะจ้องแต่จะใช้คำสองแง่สองง่ามให้เกิด ความกระหายใคร่รู้ของผู้ชม โดยอาจลืมคิดไปว่าเป็นการทำลายคุณค่าความเป็น แดจังกึม

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มนักบริโภคละครเกาหลี หรือแม้แต่ “ขาจร” อย่างเราก็ตาม คิดว่าคงมีอารมณ์ขุ่นมัวไม่น้อย หากนึกย้อนไปถึงคราวที่ช่อง 3 ออก t-ser ตัวนี้มา ( ได้ยังไง)
แต่ก็นับว่า สำเร็จ….
นอกจากกลุ่มสาวกซีรี่เกาหลีแล้ว ละครเรื่องนี้ ยังดึงขาจรมาได้อีกนับไม่ถ้วน สำหรับเราเองแล้ว แดจังกึม เป็นการเบิกฤกษ์ให้เราเปิดใจรับซี่รี่ย์เกาหลีเรื่องอื่นๆ ได้อย่างงดงาม

การผสานกิจกรรมให้ผู้ชมสามารถมีส่วนร่วมและเข้าถึงละครแบบงอมแงมเป็นความชาญฉลาดของช่อง 3 ที่เชือดวิก 7 มาได้ชนิด เจ๊แดงเต้นเร่าๆ เพราะ reach เรทติ้งตกฮวบ หลังจากที่เคยหัวเราะเยาะในความพยามจะแซงของช่อง 3 มานานหลายปี


ที่จะเห็นได้ชัดตั้งแต่การทำการตลาดละครเรื่อง “ เสื้อสีฝุ่น” / “ สะใภ้ศักดินา” ที่เริ่มมีปรากฏการณ์ ทัวร์คอนเสิร์ตแบบเป็นล่ำเป็นสันที่ เซนทรัล พระราม 2 เรื่อยมา คิดเอาเองว่า เจ๊แดงเองคงขนจักกะแร้กะดิดตะหงิด ๆ ตั้งแต่



เพลงโด๊ เหล่ หมี่ ...ๆ อาลาวาดทั่วประเทศแล้วล่ะ



หลังจากแดจังกึมฟีเว่อร์ เจ๊แดงได้ตระหนักแล้วสมควรเอา แคนลำโขง ฝั่งพื้นบ้านมาสู้กะช่อง 3 มั่ง โดยหันมายอมจัดมหกรรมย่านพระราม 2 เช่นกัน ( ตามชัดๆ )

เป็นอันสมควรสรุปได้ว่า งานนี้ ช่อง 3 สำเร็จแล้ว
และช่อง3 คงอยากทนุถนอม brand royalty ไว้
จึงได้นำ “ฝากรักไว้ที่ปลายฟ้า” มาจ่อลงจออย่างรวดเร็ว แต่ที่เราไม่ชอบเป็นการส่วนตัวก็คือ มันโปรโมทเว่อร์..อีกละ ตั้งแต่ก่อน แดจังกึม จะจบประมาณหนึ่งเดือน ก็มีการลงโฆษณาตัวนี้ถี่จนน่ารำคาญ ไม่ว่าจะเป็นช่วงพักคั่นละคร ช่วงข่าวบันเทิง หรือการให้รายการยอดฮิตประจำวิกพระรามสี่ เช่น ผู้หญิงถึงผู้หญิง “ ย้ำคำย้ำพูด” จนเราเอียน ก่อนละครมาตั้งนาน หรือแม้แต่การขึ้นตัวอักษรตัวโตๆ เอาให้เห็นให้ได้ ในระดับที่ผิดปกติ เมื่อเทียบกับ การขึ้นตัววิ่งในเรื่องอื่นๆ ( และตำแหน่งก็โผล่มาวิ่งสูงกว่าปกติเยอะด้วยพิเคราะห์จากหน้าจอ ขึ้นสูงมาเป็นนิ้ว ..เชื่อมะ )

แต่เขาก็ทำสำเร็จ ( อีกแล้ว) ด้วยการพยาม “ ดัน กระทืบ ยัน ฯลฯ" แล้วแต่จะเรียกละกัน ไม่ว่าจะเป็นเกมส์ บันไดสวรรค์ ที่จะต้องนั่งดูละครครบทุกตอนเท่านั้น จึงตอบได้ และค่อยรอส่งชิงโชคอีกรอบหนึ่ง เป็นการ keep ลูกค้าอย่างดีเลยจริงๆ ของรางวัลก็ไม่ได้มากมาย เป็นเพียงสร้อยที่เหมือนกับตัวแสดงนำในเรื่องสวมใส่เท่านั้น

แต่สำหรับในมุมมองของเรา... ละครเรื่องนี้มันเน่ายิ่งกว่าบ้านทรายทอง เศร้าเว่อร์ ร้ายเว่อร์ นางเอกแสนดีเว่อร์ ลักษณะเนื้อเรื่องการวางโครงพื้นๆ มาก ไม่ได้มีความสลับซับซ้อนอะไรเลย ฉากที่ในการดำเนินเรื่องส่วนใหญ่หมดไปกับพระนาง ที่ตามหากันไปมา แล้วคลาดกันเพียงพระเอกหันหน้าไปทางซ้าย นางเอกเดินผ่านทางขวา นางเอกคิดว่าตัวเองไม่ดี หลีกหนีไป พระเอกตามง้อ นางอิจฉาแสนเลวกลั่นแกล้ง แม่เลี้ยงใจร้าย.... เฮ้ยยย มันละครบ้านเราดีๆ นี่เอง ไม่เห็นต้องซื้อมาฉายเลย...

ที่รู้สึกแย่กว่านั้น คือ การแสดงของตัวละครที่โอเว่อร์มากจนเหมือนละครเวที....
แม้จะพยามดัน และแม้จะประสบความสำเร็จซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นไปตามการผลักของตลาดโฆษณาธรรมดาๆ ดีๆ นี่เองก็ตาม แต่เราคิดว่าวิกพระรามสี่ คงตระหนักในจุดนี้ดี จึงคิดกลยุทธ รักษาอารมณ์และผู้ชมไว้ด้วยการเอา “ หมอโฮจุน “ มาเสียบ ซึ่งได้เลือกให้มีลักษณะของ แดจัง กึม แทบไม่มีผิดเพี๊ยน และสอดคล้องกับความต้องการของคนดูที่เรียกร้องให้นำแดจังกึมมาฉายใหม่ จึงได้นำแดจังกึมมาลงในช่วงเย็น จ- ศ เป็นรอบสอง เพื่อเรียกน้ำย่อย ก่อนนำ หมอโฮจุนเข้ามา โดยไม่สะดุดอารมณ์เพราะเจอฝากรักไว้ที่ปลายฟ้า มาคั่น โดยอาจเห็นได้จากโฆษณาที่นำภาพแด จังกึมมาซ้อนแล้วพากย์เสียงเข้าไปว่า "จังกึม เจ้าจะไปไหนน่ะ / ข้าจะไปดูหมอโฮจุน"


สำหรับลักษณะของ หมอโฮจุน จะเห็นได้ว่ามีความคล้ายคลึง
ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของ
1. period
2./การเล่าเรื่องแบบชูประเด็นความเด่นไปที่ตัวบุคคลในเรื่อง คือ หมอโฮจุน
3.ทีมสร้างชุดเดียวกัน ผู้กำกับเดียวกัน นักแสดงหลายตัวในเรื่องเป้นชุดเดียวกับจังกึม
4.ถูกอ้างว่า บุคคลในเรื่องมีตัวตนจริง
5.แดจังกึม เป็นหมอฝังเข็มแต่ หมอโฮจุน เป็นหมอแมะ (เพื่อนที่ดูแล้ว บอกมาอีกที ประมาณว่า หมอจับเส้น)หมอคนนี้น่าจะมีชื่อเสียงมากกว่า จังกึม เพราะมีบันทึกประวัติ แถมภาพ รวมถึงรูปปั้นด้วย แดจังกึมมีตัวตนอยู่จริง ช่วงประมาณ สมเด็จพระรามาธิบดีที่2 ของไทย เกิดในรัชสมัย เยซังคุง ผู้วิปลาศ (1494-1506) จนถึงพระเจ้าจุงจง (1506-1544) จนถึงพระเจ้าอินจง (1544-1545) จนถึงพระเจ้าเมียงจง (1545-1567) แห่งราชวงศ์โชซอนหมอโฮจุน น่าจะเป็นรุ่นลูกจังกึมนะ เพราะมีชีวิตในช่วง พระเจ้าเมียงจงโอรสพระเจ้าจุงจง จนถึงพระเจ้าเซนโจ (1567-1608) และสิ้นชีพในสมัย กวางแฮกัน (1608-1623)

6.คาดว่านางเอก ในหมอโฮจุน คงไม่เด่น เช่นเดียวกับ แด จังกึม ที่ พระเอก ไม่เด่น

ฯลฯ
ดังที่เราเองเคยเขียนไว้เล่นๆ ในจูริสคลับ เกี่ยวกับละครแดจึงกึม ( เอามาลงให้อ่านกันในนี้เลยละกัน)



ดังนี้


เรื่องย่อ เมื่อ 500 ปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาสมัยของราชวงศ์ Chosun ประเทศเกาหลียังคงปกครองด้วยระบบกฎเกณฑ์ที่ผู้ชายเท่านั้น จึงจะสามารถมีอำนาจเป็นใหญ่กว่าผู้หญิงได้ Dae Jang Geum - Jewel in the Palace สร้างมาจากเรื่องจริงของหญิงสาวผู้เป็นตำนานนามว่า Jang Geum ซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกของเกาหลีที่เป็นแพทย์คอยรักษาอาการเจ็บป่วย ให้กับเชื้อพระวงศ์ในพระราชสำนัก เธอเป็นเด็กที่เกิดจากครอบครัวสามัญชนที่มีฐานะยากจน Jang Geum สูญเสียพ่อและแม่ไปตั้งแต่เธอยังเด็ก ด้วยเหตุผลทางการเมืองในสมัยนั้น คือ การลอบปลงพระชนม์คนสำคัญในพระราชวัง แม่ของเธอ ( ปาร์ค เมียง ยอ) กลับล้วงรู้ความลับนี้ จึงเป็นที่มาให้ถูกตามล่าเอาชีวิตเพื่อหวังปิดปาก โดยนางกำนัลตระกูลแช ( แชซังกุงในเวลาต่อมา) เมื่อแม่ของเธอรอดตายเพราะความช่วยเหลือจากเพื่อนรัก ( ฮันซังกุงในเวลาต่อมา) และนายทหารคนหนึ่ง ( พ่อของแดจังกึมนั่นเอง) ครอบครัวของเด็กหญิงจังกึมอยู่กันอย่างมีความสุขในหมู่บ้านแห่งหนึงตลอดมา จนวันหนึ่งได้ถูกตามล่าอีกครั้ง ครอบครัวของเธอแตกสลายคนละทิศทางอย่างน่าเวทนา ก่อนตายแม่ของจังกึมได้สั่งเสียให้จึงกึมเข้มแข็ง และใช้ความพยายามดำรงชีวิตอยู่ด้วยตนเองให้ได้ และให้หาหนทางกลับเข้าไปทำงานในวังเพื่อล้างมลทินให้แก่ตนเอง และครอบครัว และแล้ว ...โชคก็ยังเข้าข้างเธอเมื่อเธอได้มีโอกาสเข้าไปเรียนรู้วิธีการปรุงอาหารในพระราชสำนัก ด้วยความที่เธอเป็นเด็กที่ฉลาดทำให้ จังกึม กลายเป็นแม่ครัวมือหนึ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากเชื้อพระวงศ์ และถูกใส่ร้ายจากเพื่อนจนทำให้ต้องระเห็จไปอยู่นอกเมือง มีความลำบากแสนสาหัส ภายหลัง จังกึม พยายามเรียนรู้วิธีปรุงยาจนทำให้เธอได้มีโอกาสกลับเข้าวังและมารักษาอาการเจ็บป่วยของพระราชา อย่างไรก็ตามเล่ห์กลของคนในราชวังและอำนาจทางการเมืองก็มักจะเป็นอุปสรรคที่ทำให้ จังกึมต้องฝ่าฟันมันไปให้ อย่างไรก็ตาม จังกึม ก็พยายามใช้สติปัญญาที่ชาญฉลาดของเธอต่อกรกับศัตรูที่มีอยู่มากมายในราชสำนัก เพื่อทำให้มาตรฐานทางสังคมเกิดการเท่าเทียมกัน ซึ่งไม่มีผู้หญิงเกาหลีคนไหนเคยทำได้มาก่อนในประศาสตร์ของประเทศเกาหลี



แดจังกึม เป็นความมหัศจรรย์ทางอารมณ์ก็ว่าได้ เพราะเป็นละครที่ลงได้ในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะ ในขณะที่กระแสอารมณ์ของละครเรื่องอื่นๆ กำลังตีบตัน ช่อง 3 ก็นำ " น้ำชา" มาแก้เลี่ยนได้ดีเสียนี่กระไร คำว่าแก้เลี่ยนนี้ หมายถึงอะไร เราจะเห็นได้จากการนำเสนอเนื้อหาละครของแต่ละช่อง ที่เป็นไปในแนวใกล้เคียงกันคือ เรื่องความรัก ในธีมชิงรักหักสวาท นางเอกน่าสงสารและผลท้ายสุดจบลงด้วยความสุข ( Happy Ending ) หรือละครย้อนยุค ซึ่งมี เนื้อเรื่องแย่งชิงความเป็นจ้าวยุทธภพ อย่างมังกรหยก ความเป็นฮีโร่แบบไทยๆ เช่น ขวานฟ้าหน้าดำ หรือมุ่งแสดงถึงความเป็นมาประวัติศาสตร์อย่างสี่แผ่นดิน.... แต่ไม่มีละครเรื่องใดในช่วงนี้ที่เป็นแบบแดจังกึม ( ช่วงก่อนในยุค 70 จะมี โอชิน ละครดราม่าคล้ายแดจังกึม)_________________


แก้เลี่ยนอย่างไร สนุกอย่างไร มาดูกัน

1.แดจังกึมเป็นเรื่องย้อนยุคที่แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ชาติเกาหลี ซึ่งตามปกติที่ผ่านมาเราจะเห็นละครต่างชาติในแนวย้อนยุค ( period ) ไปในแนวอื่นดังที่กล่าวมาข้างต้น เช่น ศึกชิงยุทธภพ เรื่องราวเกี่ยวกับความรักของตัวเอกในละครเสียมากกว่า


2.เป็นการนำเสนอที่แปลก เมื่อเทียบกับความนิยมในเนื้อหาที่ผู้ชมมักชื่นชอบความเป็น “ ดารา” กล่าวคือ เลือกชมตามดารานำแสดงที่ตนเองชื่นชอบ / หรือ ความ “ดัง” ของบทประพันธ์ในอดีต เช่น บ้านทรายทอง ดาวพระศุกร์ แต่ปางก่อน ฯลฯ ด้วยเนื้อหาและความนิยมในอดีตก็สามารถการันตีความสนุก และดึงดูดให้ผู้ชมให้ความสนใจได้ไม่ยาก แต่ แดจังกึม เป็นละครที่นำเสนอโดยใช้จุดเด่นในตัวละครเอง จะเห็นได้จากการโฆษณาว่า “ หญิงที่ใช้ปากจนได้ดี ” ไม่ได้ใช้ดารา เพราะคนไทยส่วนใหญ่ก็มิได้รู้จัก ลียอง เอ ( นางเอกของเรื่อง) เป็นแน่ จะใช้ความดังของบทประพันธ์ก็คงมิได้มีคนไทยส่วนใหญ่รุ้จักอีกเช่นกัน ( หลังจากได้รับความนิยมสูงทางทีวี จึงเพิ่งตีพิมพ์เป็นหนังสือฉบับแปลภาษาไทยด้วยซ้ำ )


3.แดจังกึม เป็นละครที่ใช้ผู้หญิงเป็น “ ฮีโร่” เมื่อเทียบกับละครเรื่องอื่นๆ เราจะพบว่า ตัวเอกในการดำเนินเรื่องจะเป็น คู่ แม้หากพบตัวละครเอกเพศชาย ( พระเอก ) ในเรื่องแดจังกึมก็สามารถสังเกตได้ว่าจะมีบทบาทสูงขึ้นมาเพียงช่วงครึ่งหลังของละครเท่านั้น จุดเริ่มหรือจบของเนื้อหาละครไม่ได้แขวนไว้กับการกระทำ หรือการตัดสินใจของตัวละครเพศชายเลย

4.เป็นละครที่ชูประเด็น
4.1 การเมืองไว้ในตอนต้น และทำให้เป็นที่มาซึ่งความโศกเศร้า สะเทือนใจ และแรงจูงใจของตัวเอกในเรื่อง กล่าวคือ การที่แม่ของจังกึมถูกปองร้ายฆ่าปิดปากก็เพราะไปรู้เบื้องหลังการลอบปลงพระชนม์ของพระพันปี การที่จังกึมต้องพบกับความยากลำบากต่อๆ มา ก็เพราะต่อต้านการแย่งชิงความเป็นใหญ่ทางการเมือง การช่อราษฏร์บังหลวง และ
4.2 การใช้อาหารเป็นวัฒนธรรมหลัก ( สื่อ ) ในการนำเสนอและดำเนินบทเกือบตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันทำอาหาร การคัดตัวนางกำนัล การเลื่อนชั้นซังกุง ล้วนใช้อาหารเป็นการดำเนินเรื่องทั้งนั้น แต่ก็
4.3 กลับมาจบด้วยแนวความคิดทางสังคมสมัยนั้นได้อย่างลงตัว คือ ความคิดของคนที่มองว่าผู้หญิงห้ามเลื่อนชั้น ห้ามรับราชการ ห้ามเป็นหมอเป็นได้แค่นางพยาบาล ห้ามคิดอะไรใหม่ๆ เพราจะไม่มีคนเชื่อถือความคิดริเริ่มนั้น ( ตอนที่จังกึมพบวิธีฝังเข็มให้ตัวชาเพื่อผ่าตัดได้ ) ตัวละครจังกึมก็สามารถพิสูจน์ ฝ่าฟันให้เห็นได้ว่า ผู้หญิงก็มีความสามารถเท่าเทียมชาย ( ละครเรื่องนี้ feminism พอสมควร )



5.มีความรู้ที่แฝงเข้ามาในเนื้อเรื่องมาก เช่น ประวัติศาสตร์เกาหลี พิธีการรับคนเข้าวังหลวง การคัดสรรค์เนื้อ ผัก ในการทำอาหาร การรักษาโรค เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของละครเรื่องนี้เลยทีเดียว ประกอบกับทั้งทีมงานก็เล็งเห็นความจำเป็น ความแตกต่างในเรื่องของวัฒนธรรมที่คนต่างชาติอาจไม่เข้าใจ ( ละครเขามองการณ์ไกลดีเนอะ ทำให้คนดูรู้เรื่อง ขายได้ทั่วโลก เป็นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ดี ) ด้วยการมีพิธีกรแนะนำความรู้และธีมของละครในตอนนั้นๆ ได้ เป็นการโปรยเข้าละครก่อนดู ซึ่งเราจะไม่ได้เห็นลักาณะนี้ในละครเรื่องใด และขณะนี้ เกาหลี เป็นประเทศที่ฉลาดในแง่ของการส่งเสริมการท่องเที่ยวแนวใหม่ในอาเซียน ทำคล้าย universal studio ของฮอลลิวู๊ด ในขณะนี้ คือ มีการจัดทัวร์ของรัฐบาลเกาหลีเอง และ ทัวร์เอกชนทั่วไปในลักษณะ “ ตามรอยแดจังกึม ”

6.อารมณ์สะเทือนใจที่สอดแทรกให้คนดูได้ร่วมรู้สึกตามในทุกๆ ตอน เช่น ฉากที่แม่ของจังกึมตาย / สภาพที่จังกึมถูกรังแกในระหว่างคัดเลือกนางกำนัล / ฮันซังกุงและจังกึมเพิ่งรู้ว่าต่างก็เป็นบุคคลที่ตนเฝ้าแสวงหามานาน / จังกึมถูกใส่ร้ายจากเพื่อนร่วมงาน
สิ่งที่น่าสนใจ จากการมองจุดร่วมของซี่รี่ย์พีเรียดสองเรื่องนี้ คือ ต่างได้รับความสนใจในแง่ของการท่องเที่ยว อันเป็นรายรับของประเทศเกาหลีแบบเสือนอนกิน....

*********************************************************************************


หากท่านผู้อ่านสงสัยว่าจริงหรือไม่ ลองเข้า google เสริช คำว่า ตามรอยแดจึงกึม จะเห็นทัวร์สารพัดยี่ห้อ และราคาหลากหลายโผล่มาให้ตัดสินใจควักเงินในกระเป๋า

แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่า... คือ ภาวะทางปัญญาของท่านผู้ชมบ้านเราทั้งหลาย ที่ถูกพัดพาใหลไปในกระแสเกาหลี ทั้งเต็มใจ และ ไม่รู้ตัว...
กล่าวคือ หลังจากซี่รี่ย์สไตล์เกาหลีกำลังเป็นที่นิยม free tv หรือแม้แต่ cable tv ต่างก็พากันนำซี่รี่ย์เกาหลีมาลงจอกันเป็นแถว... ด้วยคาดหวังความสำเร็จทางสปอนเซอร์ และเอาใจผู้ชมที่ขอให้เป็น “ เกาหลี” แล้วเชื่อว่าชั้นทันสมัย ไม่ทราบว่าเราคิดไปเองหรือปล่าวนะ แต่ขณะนี้ เปิดไป ช่อง 3 5 7 9 itv หรือลอง เชคตารางออนแอร์ดูแล้วคงรู้สึกได้ว่า ตามกันจริงๆ เพราะมีร่วม 20 เรื่อง

ซึ่งอาจง่าย สำหรับผู้ผลิตรายการ เพราะแค่ซื้อมาลงจอออกอากาศ + ฮิต เพราะคนกำลังสนใจเกาหลีเยอะ แต่ผลกระทบที่ตามมาก็มี
เช่น


1.คุณเคยคิดหรือไม่ว่า จู่ๆ จะมีทัวร์การแสดงคอนเสริตของนักร้อง / ดารา เกาหลี เดือนละอย่างน้อย 2 ครั้งในประเทศไทย
2.โฆษณาเครื่องปรับอากาศ มีนางเอกเกาหลีเรื่องฮิตมาลง
3.โทรศัพท์ i-mobile แถมตั๋วคอนเสริต ที่ไม่สามารถหาซื้อได้ เว้นแต่ต้องซื้อมือถือยี่ห้อนี้
4.ทัวร์แดจังกึม ดังที่ไปบอกไปแล้ว
5.ริงโทน เกมส์ ดาวโหลด เกี่ยวกับซี่รี่ย์เหล่านี้ทั้งสิ้น ทั้งละเมิดลิขสิทธิและซื้อลิขสิทธิมาผลิต
6.เครื่องใช้ กิฟท์ชอปทั่วไป ที่มีรูปของซี่นี่ย์เหล่านี้


ล้วนเป็นกระแสมาจาก “ สื่อ” ทั้งนั้น


เงินบ้านเราเทไปที่เกาหลี อันมี “ละคร” เป็นการจุดประกาย


แล้วเมื่อไรจะพัฒนาในแบบฉบับของตัวเองได้เสียที!!!

วันพฤหัสบดี, เมษายน 27, 2549

จุด จุด จุด

ในวันเดียวกัน หลังจากทำเอง อ่านเอง บ่นเองในเรื่องข้างล่าง ก็มีเวลาลองอ่านบลอคของเพื่อนๆ พี่ๆ ไล่ไปทีละอัน
วันนี้เป็นวันแรก ที่ได้อ่านเรื่องราวความเห็นต่างๆ ตามสายบลอคเกอร์อย่างเต็มที่ในรอบ 3 เดือนได้

เกิดรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง หรืออาจไม่เรียกกว่าความเปลี่ยนแปลง แต่อาจเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์สันดานที่เพิ่ง " ผุด " ในสายตาเรา

เราเกิดความรู้สึกไม่กล้าโพสความเห็นอะไรในบลอคของคนที่เราเคยโพส
บางครั้งเห็นด้วย บางครั้งไม่เห็นด้วย บางครั้งไม่มีความเห็นเกี่ยวข้องกับประเด็นที่โพส แต่ก็คอมเม้นลงไปด้วยอยากทักทาย

เกิดความ " สบายใจ " ที่จะ "พิมพ์"

บางครั้งบุคลิกของเราก็ชื่นชอบการเข้าสังคม ทำความรู้จักกับสิ่งใหม่ เพื่อนใหม่ ความเห็นใหม่
แต่บางครั้ง เราก็เหมือนปิดตัวเอง ไม่อยากรู้จักหรือแสดงความเห็นแลกเปลี่ยนอะไร ไม่อยากเห็นด้วยกับใคร
ไม่อยากพิมพ์อะไรลงไปในบลอค ทั้งๆ ที่ มันก็บลอคเพื่อน บลอคคนรู้จักกัน ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด กับคอมเม้นที่บางที มันไม่ค่อยเกี่ยวกับหัวข้อหรอก มักขุดอะไรต่อมิอะไรขึ้นมาด่ากันมากกว่า




เรื่องของเรื่อง คือ เพราะไม่อยากเป็นพวกใครเลย...

จะคอมเม้นเกี่ยวกับหัวข้อ ก็จะไม่เข้ากับคอมเม้นที่เขาเถียงกันอยู่ จะคอมเม้นเกี่ยวกับที่เขาเถียงกันอยู่ ก็จะไม่เข้ากับหัวข้อที่อ่าน..


เริ่มไม่แน่ใจ ... หลังจากที่ได้อ่านคอมเม้นแรงๆ ของบางคนในบางบลอค เราก็ไม่รู้ว่าควรอ่านอย่างเดียวหรือควรเสร่อแทรกความเห็นลงไปด้วยดี
เพราะไม่รู้ว่า จะเป็นการแทรกบรรยากาศเชียร์มวยของใครอยู่หรือปล่าว...